หุ้นกลุ่มอสังหาริทรัพย์ต่างปรับตัวลงตอบรับความกังวลผลกระทบหลังแผ่นดินไหว ส่งผลลูกค้าชะลอตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียม นำโดย
ORI ลดลง 14.04% ลดลง 0.32 บาท มาที่ 1.96 บาท มูลค่าซื้อขาย 41.78 ล้านบาท
EVER ลดลง 14.29% ลดลง 0.01 บาท มาที่ 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.01 แสนบาท
ANAN ลดลง 9.26% ลดลง 0.05 บาท มาที่ 0.49 บาท มูลค่าซื้อขาย 5.30 ล้านบาท
AP ลดลง 8.72% ลดลง 0.75 บาท มาที่ 7.85 บาท มูลค่าซื้อขาย 3.19 ล้านบาท
NOBLE ลดลง 8.47% ลดลง 0.20 บาท มาที่ 2.16 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.94 ล้านบาท
SPALI ลดลง 4.71% ลดลง 0.80 บาท มาที่ 16.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 227.92 ล้านบาท
SIRI ลดลง 4.49% ลดลง 0.07 บาท มาที่ 1.49 บาท มูลค่าซื้อขาย 88.03 ล้านบาท
MJD ลดลง 2.99% ลดลง 0.02 บาท มาที่ 0.65 บาท มูลค่าซื้อขาย 7.47 แสนบาท
LPN ลดลง 2.45% ลดลง 0.05 บาท มาที่ 1.99 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.65 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองประเด็นผลกระทบจากเหตุการร์แผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบทางลบ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมประเภท High rise จากความกังวลเรื่องความปลอดภัยของโครงสร้าง โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมาก คือ บริษัทที่มีโครงการคอนโดเป็นสัดส่วนสูง 70-90% คือ NOBLE, ORI, ANAN, LPN ส่วนบริษัทที่มีรายได้คอนโด 30-50% เป็น AP, SIRI, SPALI, SC และด้าน LH, QH, PSH จะมีสัดส่วนคอนโดน้อย ส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบ และทาวเฮาส์
โดยคาดว่ายอดขายและยอดโอนรับรู้รายได้คอนโดจะชะลอตัวลง จากการที่ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อคอนโด จากความไม่มั่นใจในการอยู่อาศัย และผู้ประกอบการน่าจะมีการทำโปรโมชั่นเพื่อระบายสต็อก ยังผลให้จะมีความเสี่ยงต่ออัตรากำไรที่อาจจะลดลงบ้าง แต่กลับกันด้านโครงการแนวราบ ทั้งทาวเฮาส์ และบ้านเดี่ยว รวมถึงคอนโด Low rise (ไม่เกิน 9 ชั้น) มีโอกาสได้รับผลบวกเล็กน้อย
บล.กรุงศรี ประเมินว่า ORI มีประเด็นความเสียหายที่ออกสื่อมากกว่าบริษัทอื่น อาจมี negative sentiment มากกว่าบริษัทอื่น โดยเฉพาะโครงการ Park Origin Thonglor มีคลิปเกี่ยวข้องกับสะพานเชื่อม 3 อาคารเสียหาย ถึงแม้บริษัทชี้แจงว่าเสียหายเชิงสถาปัตยกรรม ไม่กระทบโครงสร้าง แต่เราคาดอาจมีผลต่อความเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจซื้อในระยะสั้น ซึ่งโครงการดังกล่าวยังมีสต็อกเหลือขายอีกราว 4.2 พันล้านบาท ซึ่งมีนัยสำคัญต่อบริษัท และ ORI มีพอร์ตจากกลุ่มคอนโดเป็นรายได้หลักของบริษัท หากการชะลอการตัดสินใจซื้อนานกว่าที่ อาจกระทบแผนคืนหุ้นกู้ในปีนี้ที่ครบกำหนดอายุชำระคืนมูลค่ารวมราว 6.3 พันล้านบาท
ส่วนบริษัทอื่นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มองว่ายังไม่เห็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ โดยคอนโดเกือบทุกโครงการที่มีแผนโอนในไตรมาส 4/68 ยังเป็นไปตามแผน และคาดว่ายอดขาย ยอดโอน และกำไรสุทธิ ของกลุ่มอสังหาฯในไตรมาส 1/68 จะลดลง YoY และเห็นการชะลอต่อเนื่องในเดือนเม.ย.นี้ ก่อนที่จะกลับมาหลังสถานการณ์ค่อยๆดีขึ้นเดือนพ.ค.ที่เริ่มมีการผ่อนคลาย LTV