ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นเหนือระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล และราคาโลหะทะยานขึ้นแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างรุนแรงได้สกัดแรงบวกในตลาดหุ้นลอนดอน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 6.5 จุด หรือ 0.1% แตะระดับ 6,198.1 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,183.5-6,257.3 จุด
เจมส์ แคร์ริก นักวิเคราะห์จาก แอล แอนด์ จี อินเวสท์เมนท์กล่าวว่า "ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และหลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยลบที่สกัดช่วงขาขึ้นของตลาดหุ้นลอนดอนด้วย อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและพยุงตลาดหุ้นลอนดอนให้ปิดในแดนบวกได้"
หุ้นกลุ่มน้ำมันพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะยานขึ้นเหนือระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 22 เพนซ์ ปิดที่ 650 เพนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดขึ้น 100 เพนซ์ ปิดที่ 2212 เพนซ์ หุ้นบีจีพุ่งขึ้น 72 เพนซ์ ปิดที่ 1394 เพนซ์ และหุ้นเคร์น เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 162 เพนซ์ ปิดที่ 3681 เพนซ์
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส พุ่งขึ้น 75 เพนซ์ ปิดที่ 2712 เพนซ์ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดีดขึ้น 43 เพนซ์ ปิดที่ 2066 เพนซ์ หุ้นแองโกล อเมริกันพุ่งขึ้น 62 เพนซ์ ปิดที่ 3515 เพนซ์ และหุ้นริโอ ทินโต ทะยานขึ้น 48 เพนซ์ ปิดที่ 6641 เพนซ์
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงจากข่าวลือที่ว่าธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ เตรียมออกหุ้นเพื่อระดมทุนอีก 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ร่วงลง 13 เพนซ์ ปิดที่ 245 เพนซ์ หุ้นธนาคาร HBOS ดิ่งลง 20 เพนซ์ ปิดที่ 445 เพนซ์ และหุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ ร่วงลง 20 เพนซ์ ปิดที่ 416 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--