ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,125.21 จุด ลดลง 36.60 จุด (-3.15%) มูลค่าซื้อขาย 48,338.49 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีร่วงลงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยทำจุดต่ำสุด 1,122.51 และทำจุดสูงสุด 1,156.02 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 65 หลักทรัพย์ ลดลง 491 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 102 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงหนักตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ตอบรับความกังวลสงครามการค้าของสหรัฐหลังจากประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศต่าง ๆ อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และเกิดความไม่แน่นอนสูงจึงเลือกเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมานำเงินไปพักไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อรอติดตามสถานการณ์
ตลาดหุ้นบ้านเราเจอแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมากดดัน ประกอบกับ ราคาน้ำมันโลกร่วงแรงหลังกลุ่ม OPEC+ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ภาพรวมของดัชนี SET ลงมาอย่างต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ รวมทั้งมีแรงขายลดความเสี่ยงก่อนช่วงวันหยุดยาวเข้ามากดดันด้วย ทำให้ SET วันนี้ลงมาแตะจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19
แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ มองว่ายังมีความผันผวนอยู่ คงต้องรอติดตามว่าทางรัฐบาลจะมีการเจรจากับสหรัฐออกมาเป็นอย่างไร หลังจากที่ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้ามากกว่าที่คาดไว้ เป็นปัจจัยที่กดดันเศรษฐกิจไทย
โดยให้แนวต้าน 1,140-1,150 จุด แนวรับ 1,110-1,120 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
GULF มูลค่าการซื้อขาย 4,182.03 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท ลดลง 3.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,258.78 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,194.88 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,028.54 ล้านบาท ปิดที่ 106.00 บาท ลดลง 9.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,934.25 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท ลดลง 0.75 บาท