
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต [BLA] เปิดเผยว่า ภาพรวมในปี 2568 ธุรกิจประกันชีวิตยังเผชิญกับความท้าทายทั้งทางเศรษฐกิจ และพฤติกรรม ความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่าง ทำให้การออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ต้องผ่านการทำความเข้าใจแต่ละกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง
โดย BLA ยังคงมุ่งสร้างการเติบโตผ่านทุกช่องทาง โดยการทำงานในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการสานต่อวิสัยทัศน์ใหม่ในเรื่องความ "ใส่ใจ" ภายใต้ธีม ?2025 The Year of Care? โดยมี 6 เสาหลักของการให้คำมั่นสัญญา (6Ps) เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนของสังคมไทย ประกอบด้วย Products, Professionals, Policy, Privileges, People และ Planet โดยทั้ง 6 P เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการบริหารธุรกิจประกันชีวิตอย่างยิ่ง จึงต้องมีการประสานความร่วมมือเพื่อให้การดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่เรื่องความใส่ใจประสบผลสำเร็จมากที่สุด
ส่วนภาพรวมของธุรกิจประกันชีวิตในปี 2567 ยังสามารถเติบโตท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสความใส่ใจด้านสุขภาพ รวมทั้งความรู้ความเข้าใจเรื่องการประกันชีวิตและการวางแผนการเงินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสังคมสูงวัยของภาคประชาชนที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในส่วนของ BLA ถือว่าประสบความสำเร็จจากการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตซึ่งมาจากทุกช่องทาง โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 7,037 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% และเบี้ยประกันภัยรับรวม 34,837 ล้านบาท เติบโต 2% มีตัวแทนใหม่ 2,546 คน เพิ่มขึ้น 18% โดยมีตัวแทนที่ Active 7,360 คน เพิ่มขึ้น 6% และ มีผู้บริหารหน่วยที่สามารถสร้างผลงานได้เกินเป้า 200% เพิ่มขึ้นถึง 23%
แบบประกันที่ได้รับความสนใจและเติบโตได้อย่างโดดเด่น ได้แก่ แบบประกันสะสมทรัพย์ ประกันตลอดชีพ รวมทั้งสัญญาเพิ่มเติมต่าง ๆ โดยเฉพาะประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง นอกจากนี้ ยังได้รับคะแนนความพึงพอใจต่อการเคลม หรือ NPS Fax Claim 76% คะแนนความพึงพอใจศูนย์บริการลูกค้า Customer Service Center CSAT 95% และมีจำนวนผู้ใช้ Happy Life Application เพิ่มขึ้น 31%
นายโชน กล่าวว่า ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าในผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการออมเงิน การคุ้มครองชีวิต และการเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ ถึงแม้จะมีการแข่งขันสูงแต่บริษัทฯ มุ่งเน้นในการนำเสนอความแตกต่างผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ รวมไปถึงการให้คำปรึกษาทางการเงินที่สอดคล้องกับเป้าหมายของลูกค้าด้วยความใส่ใจภายใต้การประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ในการเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในด้านความ "ใส่ใจ" หรือ The Most Caring Life Insurance Company ที่มุ่งเน้นการสร้าง DNA เรื่องใส่ใจให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร ด้วยความเชื่อมั่นว่าความใส่ใจในความต้องการของลูกค้าและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดจะเป็นจุดแข็งสำคัญที่ช่วยให้กรุงเทพประกันชีวิตสามารถรักษาการเติบโตที่ยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
"การสะท้อนความใส่ใจให้ออกมาเป็นการกระทำที่สัมผัสได้ของกรุงเทพประกันชีวิต ยังเป็นที่มาของการจัดตั้งโครงการ "ตามหากันจนเจอ" ที่มีทีมงานดูแล ติดตามลูกค้าเพื่อส่งมอบผลประโยชน์ตามสัญญา โดยการตามหาผู้รับประโยชน์เพื่อให้ ผู้เอาประกันได้รับเงินครบกำหนดได้ครบถ้วน โดยในช่วงเดือน เมษายนถึงตุลาคม 2567 สามารถติดตามมอบเงินผลประโยชน์ได้ 387 ราย คิดเป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท และ ในปี 2568 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวน 10 ราย ยอดเงินกว่า 4 ล้านบาท รวมมอบผลประโยชน์แล้ว 493 ราย คิดเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท" นายโชน กล่าว