AAV ปรับลง 3.70% มาที่ 1.30 บาท ลดลง 0.05 บาท มูลค่าซื้อขาย 89.07 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.45 น. จากราคาเปิด 1.33 บาท ราคาสูงสุด 1.35 บาท ราคาต่ำสุด 1.24 บาท เป็นราคาต่ำสุดใหม่ (New Low) ในรอบเกือบ 5 ปีหรือช่วงโควิด โดยราคาหุ้น AAV ปรับตัวลงต่อเนื่องมาประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.68 หลังผ่านเทศกาลตรุษจีน
นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์อาวุโส บล.กรุงศรี กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาหุ้น บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น [AAV] ลงมาอย่างต่อเนื่อง เพราะสายการบินไทยแอร์เอเชียที่มี AAV ถือหุ้นใหญ่ ยังพึ่งพิงนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก แม้ว่าสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนจะน้อยลงจากช่วงก่อนโควิดก็ตาม
หลังผ่านเทศกาลตรุษจีนมาแล้ว ปรากฎว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงไปถคง 40-50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลงระดับนี้ตั้งแต่เดือนก.พ. จนถึงปัจจุบันก็ยังมีตัวเลขลดลงระดับ 40-50% เป็นปัจจัยทำให้เกิดความกังวลว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมที่เดินทางเข้าประเทศที่ตั้งเป้าในปีนี้ที่ 38-39 ล้านคน อาจจะไม่ถึงเป้า ทำให้ AAV เกิดความเสี่ยงขึ้น
- ประเมินว่าหากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนหดตัวในระดับ 40-50% ถึงสิ้นปี 68 อีกทั้งผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เบื้องต้นมองว่าอาจทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 35 ล้านคน หรืออาจมีจำนวนใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 35.5 ล้านคน ยังไม่นับรวมผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐที่กระทบกับหลายประเทศและส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ฉุดการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งยังประเมินได้ยากว่าจะกระทบมากน้อยอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป
- ไทยแอร์เอเชีย เป็นสายการบินโลว์คอสที่มีฝูงบินขนาดใหญ่ถึง 60 ลำ เมื่อตัวเลขนักท่องเที่ยวเสี่ยงไม่ถึงเป้าหมาย AAV จะรับผลกระทบมากกว่าสายการบินอื่น ผู้โดยสารน้อยลง ส่งผลกระทบต่อกำไร เพราะการมีฝูงบินขนาดใหญ่ทำให้ต้นทุนคงที่สูงกว่ารายอื่น
- ราคาตั๋วโดยสาร ในช่วงปี 67 เป็นช่วงที่ดีมากของทุกสายการบิน เพราะซัพพลายหรือเครื่องบินฟื้นตัวช้ากว่าดีมานด์หลังโควิดคลี่คลาย แต่ช่วงต้นปี 68 สถานการณ์ราคาตั๋วมีแนวโน้มจะทรงตัวใกล้เคียงปี 67 แต่ในช่วง 2-3 เดือนแรกพบว่าปริมาณเที่ยวบินเติบโตสูงกว่าปริมาณผู้โดยสาร ทำให้มีความเสี่ยงที่ซัพพลายโตตามดีมานด์อาจทำให้ราคาตั๋วไม่ได้สูงอย่างที่คาดไว้ ทำให้มี Downside เกิดขึ้น
- AAV มีเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐราว 1,000 ล้านเหรียญฯ เมื่อมีมาตรการเก็บภาษีตอบโต้ของสหรัฐทำให้เงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้เกิดการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน โดยหากบาทอ่อนทุก 1 บาทจะต้องบันทึกขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 1,000 ล้านบาท แม้ไตรมาส 1/68 บาทแข็งค่าขึ้นเป็นบวกต่องบการเงิน แต่ในไตรมาส 2/68 เงินบาทอ่อนค่าก็มีความเสี่ยงบันทึกขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
ในปี 68 ประเมินผลประกอบการ AAV มี downside 40-70% เนื่องจากรายได้ผันผวน ขณะที่ต้นทุนยังสูง แต่ก็มีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับลง ซึ่ง AAV มีต้นทุนน้ำมัน 30-40% อาจช่วยชดเชยได้บ้าง จากเดิมคาดกำไรปกติที่ 3,286 ล้านบาท เติบโต 12%YoY เดิมให้ราคาเป้าหมาย 3.90 บาท แต่ขณะนี้มีปัจจัยเสี่ยงจากนักท่องเที่ยวลดลงกว่าคาด และ การแข่งขันราคามีโอกาสเพิ่มขึ้น
- หากนักท่องเที่ยวปี 68 มีจำนวน 35 ล้านคน ราคาตั๋วลดลง 5% จากปีก่อน คาดว่ากำไรปกติอยู่ที่ 1,959 ล้านบาท ลดลง 33%YoY จึงปรับลดเป้าหมายหุ้น AAV ลงมาที่ 2.30 บาท
- หากนักท่องเที่ยวปี 68 มีจำนวน 35 ล้านคน และราคาตั๋วลดลง 10% คาดกำไรปกติอยู่ที่ 953 ล้านบาท ลดลง 67%YoY ปรับลดเป้าหมายมาที่ 0.85 ลบาท
นายดิษฐนพ กล่าวว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาปริมาณซัพพลายมากกว่าดีมานด์ นักท่องเที่ยวมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เป็นตามเป้า แต่ขณะนี้ภาพผลกระทบอาจยังไม่ชัดเจน เพราะอยู่ในช่วงสงกรานต์ที่เป็นช่วง high season และหลังการเกิดแผ่นดินไหว รวมทั้งเกิดผลกระทบจากสหรัฐเก็บภาษีตอบโต้ ต้องรอดูตัวเลขทั้งหมดแล้วค่อยมาประเมินแนวโน้มที่เหลือของปีว่าเป็นอย่างไร
"หุ้นการบินตอนนี้ยังประเมินได้ยาก ตรงไหนและช่วงไหน หลังสงกรานต์ก้อาจเห็นความชัดเจนมากึ้น ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า bottom หรือยัง"
ทั้งนี้ คงน้ำหนัก Neutral หุ้นกลุ่มการบิน ยังมี Downside Risk เป้าหมายนักนักท่องเที่ยวปี 68 แนวโน้มต่ำกว่าคาด โดยเลือก BA เป็นหุ้น Top Pick จากที่ downside น้อยสุดในกลุ่ม และราคาหุ้นลดลงต่ำกว่า downside ให้ราคาเป้าหมาย 23.25-27.00 บาท