หุ้น BANPU ราคาขยับขึ้น 1.68% มาอยู่ที่ 484 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท มูลค่าซื้อขาย 440.23 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.39 น. โดยเปิดตลาดที่ 476 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 484 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 472 บาท
ราคาหุ้น บมจ.บ้านปู(BANPU)ปรับตัวขึ้นมาในวันนี้ หลังจากโบรกเกอร์หลายรายยังคงแนะ"ซื้อ"จากปัจจัยราคาถ่านหินทำ New High ใหม่เมื่อ 16 พฤษภาคม 51 ที่ US$131.90 ต่อตัน และยังมีแนวโน้มที่จะทำ New High ต่อเนื่องยาว ทำให้มีการปรับเพิ่มประมาณการรายได้ของบริษัทสูงขึ้นตามไปด้วย
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุว่า ราคาถ่านหินล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทำ new historical high ที่ 131.9 เหรียญ/ตัน เพิ่มขึ้น 1.9 เหรียญ/ตันหรือสูงขึ้น 47% จากต้นปี 145% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแนวโน้มราคาถ่านหินยังน่าจะทำ new high อย่างต่อเนื่องตามราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ ราคาถ่านหินที่ทำ new high จะส่งผลบวกอย่างมากต่อราคาจำหน่ายถ่านหินของ BANPU และคาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสที่จะทำ new high (จุดสูงสุดเดิมอยู่ที่ 508 บาท)ได้(เช่นเดียวกันกับที่ราคา PTTEP ทำ new high ตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นทำ new high ต่อเนื่อง)
นอกจากนี้ ราคาหุ้น BANPU ค่อนข้างจะ laggard กับราคาหุ้นของบริษัทลูก ITM (Indo Tanbangraya Megah)ที่บริษัทถือหุ้น 73.72% ซึ่งวานนี้ปรับขึ้นมา 10% ตามราคาถ่านหินและแนวโน้มที่จะทำ new high อย่างต่อเนื่อง และ 22% ใน 1 สัปดาห์ ในขณะที่ราคาหุ้น BANPU ปรับขึ้นมาเพียง 6% ราคาหุ้นปัจจุบันยังคงถูกอยู่ซื้อขายอยู่ที่ PER 16.9 เท่า(PER กลุ่มเหมืองถ่านหินในภูมิภาคซื้อขายที่ PER 17-20 เท่า)โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 536 บาท
บล.ฟิลิป(ประเทศไทย)ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิ BANPU เพิ่มขึ้น และปรับราคาพื้นฐานจาก 521 บาท/หุ้น มาเป็น 529 บาท/หุ้น เนื่องจากราคาถ่านหิน Spot Price(Balow Jonker Index:BJI)ยังคงปรับตัวอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจีนจะเริ่มทำการส่งออกถ่านหินหลังจากที่หยุดไปชั่วคราว แต่แอฟริกามีปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอส่งผลให้ต้องหยุดการผลิตถ่านหินบางส่วนทำให้ supply ถ่านหิน ในตลาดโลกยังคงถูกจำกัด
บล.กสิกรไทย ปรับราคาเป้าหมาย BANPU ขึ้นอีก 7.4% ที่ 575 บาท (Upside 21%) เพราะมองว่า BANPU เป็นหุ้น laggard ในช่วงขาขึ้นของหุ้นกลุ่ม commodity เน้นในเรื่องของราคาถ่านหินเป็นหลัก เรารู้สึกว่าผู้บริหารค่อนข้างมั่นใจในทิศทางการปรับขึ้นของราคาถ่านหินจนถึงกลางปี 2010 เชื่อว่าสมมติฐานครั้งก่อนทั้งราคาถ่านหินและน้ำมันดีเซลค่อนข้างต่ำเกินไป
คาดว่า Consensus จะมีการปรับประมาณการณ์ขึ้น จากทิศทางขาขึ้นของราคาถ่านหิน ประมาณการณ์กำไรสุทธิใหม่ในปี 2008 และ 2009 สูงกว่า 14% และ 25% จาก Consensus ในท้ายที่สุด เราคาดว่า Consensus จะ ปรับขึ้นมาใกล้เคียงกับที่เราประมาณการไว้
แนะนำให้ปรับกลยุทธ์เพื่อไล่ตามราคาถ่านหิน BANPU เข้าทำสัญญาณขายถ่านหินในปี 2009 น้อยกว่าที่เคยทำมาเพียง 10% ของปริมาณเป้าหมายยอดขายที่ 20.5 ล้านตัน ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นการยืนยันว่าผู้บริหารมองแนวโน้มราคาที่จะปรับเพิ่มขึ้น
บล.สินเอเซีย ปรับประมาณการปี 51 และ 52 ขึ้น 6% และ 4% จากการปรับสมมติฐานราคาขายเฉลี่ยถ่านหินปี 51 และ 52 ขึ้นเป็น 65 และ 71 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน จากเดิมที่ 60 และ 65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ส่งผลให้ประมาณการกำไรปกติปี 51 อยู่ที่ 8,641 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.1% YoY และปี 52 คาดว่ามีกำไรปกติที่ 8,912 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% YoY
พร้อมปรับราคาเป้าหมายปี 51 ขึ้นเป็น 540 บาท จากเดิมที่ 512 บาท ผลจากการปรับประมาณการปี 51 ขึ้นดังกล่าวข้างต้น โดยใช้ค่าเฉลี่ย P/E Ratio ที่ 17 เท่า (P/E ธุรกิจไฟฟ้าที่ 10 เท่า และ P/E ธุรกิจถ่านหินในเอเชียที่ 23 เท่า) แม้ปี 51 BANPU จะทำสัญญาซื้อขายถ่านหินและตกลงราคาซื้อขายไปกว่า 90% แล้ว แต่แนวโน้มปี 52 น่าจะสามารถทำสัญญาซื้อขายถ่านหินได้ในราคาที่สะท้อนราคาตลาดในปัจจุบันที่ยังอยู่ในระดับสูงได้มากขึ้น
ด้านบล.เคจีไอ(ประเทศไทย) แนะราคาเป้าหมาย BANPU ที่ 525 บาทและการเซ็น PPA ของแหล่งหงสาในเดือนถัดไปจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับราคาหุ้นในระยะสั้น
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--