TISCO แจง Q1/68 กำไรหด QoQ,YoY ตามรายได้ดอกเบี้ยลดลง-ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น NPL เร่งตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 17, 2025 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

TISCO แจง Q1/68 กำไรหด QoQ,YoY ตามรายได้ดอกเบี้ยลดลง-ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น NPL เร่งตัว

บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป [TISCO] แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิปรับตัวลดลง 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 1.64 พันล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยลดลงตามการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกอบกับ การลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้เปราะบางที่เข้าร่วมโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" และยังมีการสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.7% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับการเติบโตของสินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง

เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/67 กำไรสุทธิลดลง 3.4% เป็นผลมาจากรายได้รวมอ่อนตัวลง 2.5% และค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้นจาก 0.6% มาเป็น 0.7% ของสินเชื่อเฉลี่ย โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 2.1% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ในโครงการ "คุณสู้ เราช่วย"

นอกจากนี้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 2.42% ในไตรมาส 1/68 จากสิ้นปี 67 ที่ 2.35% ซึ่งเป็นผลมาจากแผนการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาที่เน้นการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่บริษัทก็ได้กลับมาระมัดระวังการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงและการตั้งสำรองที่รัดกุม ทำให้ในไตรมาส 1/68 เงินให้สินเชื่อลดลง 0.4% จากการชะลอตัวของสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน

ประกอบกับ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ได้รับผลกระทบจากตลาดรถยนต์ในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้าประกันภัยยังไม่ฟื้นตัว ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 0.9% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยในไตรมาส 1/68 ลดลง 3.3% จากไตรมาส 4/67 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัยนของปีก่อนรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 3.4% จากรายได้ของธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เพิ่มขึ้นจากการออกกองทุนใหม่ และรายได้ค่ารายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นตามส่วนแบ่งตลาดของ บล.ทิสโก้ที่เพิ่มขึ้น

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 เผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ และเหตุแผ่นดินไหวที่สร้างความตื่นตระหนกและกระทบต่อความเชื่อมั่น กดดันภาคเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้วให้อ่อนแอลงยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาความเสี่ยงใหม่จากมาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2568 ทั้งนี้ ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะยังมีความท้าทายสูง คาดการณ์ว่า จะเติบโตเพียง 1.5-2% โดยขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาต่อรองอัตราภาษีกับสหรัฐฯและผลกระทบข้างเคียงในภูมิภาค "กลุ่มทิสโก้ จะมุ่งเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง โดยยึดมั่นในหลักการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย และการนำเทคโนโลยีมายกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมการติดตามดูแลลูกค้ากลุ่มเปราะบางอย่างใกล้ชิด โดยให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุดและรวดเร็วผ่านโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ อาทิ โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงมาตรการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน (Pre-emptive Debt Restructuring) ของกลุ่มทิสโก้ ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าขยายบริการบริหารความมั่งคั่ง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงข้างไปกับลูกค้า ทั้งในภาวะปกติและช่วงเวลาวิกฤต" นายศักดิ์ชัยกล่าว

ล่าสุด บริษัท ทริสเรทติ้ง ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ TISCO เป็นระดับ "A" จากเดิมที่ "A-" พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิตที่ระดับ "คงที่" (Stable) รวมถึงปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคารทิสโก้ เป็นระดับ "A+" จากเดิม "A" ด้วยแนวโน้ม "คงที่" เช่นกัน สะท้อนถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งของกลุ่มทิสโก้ จากความสามารถในการทำกำไรที่มั่นคง ความยืดหยุ่นในการให้บริการสินเชื่อรายย่อย ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของตลาด การดำเนินกลยุทธ์อย่างระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งรองรับต่อความเสี่ยงรอบด้าน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ