ก.ล.ต.สั่งปรับ "แอน จักรพงษ์-JKN" กว่า 4 ลบ.แจ้งข้อมูลเท็จปกปิดขายหุ้น MUO ให้เศรษฐีเม็กซิกัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 22, 2025 18:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป [JKN] และนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรืออาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลของ JKN โดยให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 4,124,078 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามผู้กระทำความผิด 1 ราย เป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เมื่อเดือนเมษายน 2567 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 เวลา 14.00 น. JKN โดยนายจักรพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศของ JKN ได้เปิดเผยผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ JKN ชี้แจงกรณีปรากฏข่าวบนสื่อออนไลน์ว่า JKN ได้ขายธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล (Miss Universe Organization: MUO) ให้แก่นายราอูล โรชา เศรษฐีชาวเม็กซิกัน ซึ่ง JKN ชี้แจงโดยสรุปว่า JKN ได้มีการดำเนินการหาและติดต่อนักลงทุนหลากหลายราย และได้ศึกษารายละเอียดข้อเสนอลงทุนของนักลงทุนมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในช่วงเวลานั้น JKN โดย JKN Global Content Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JKN ได้ดำเนินการขายหุ้นของ JKN Legacy, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล และครอบครองลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล (Miss Universe) ให้แก่ Legacy Holding Group USA Inc. ในจำนวนร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมด โดยเข้าทำสัญญาซื้อขายเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อมูลว่า Legacy Holding Group USA Inc. มีนายราอูล โรชา เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดังนั้น ข้อความที่ JKN เผยแพร่ดังกล่าวจึงไม่ถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริงหรืออาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลของ JKN โดยประการที่น่าจะทำให้มีผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ JKN

การกระทำของ JKN เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 วรรคหนึ่ง และมาตรา 296/2 และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน โดยนายจักรพงษ์ ในฐานะเป็นบุคคล ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล กระทำการเป็นเหตุให้ JKN กระทำความผิดในกรณีข้างต้นจึงต้องรับโทษเดียวกันตามมาตรา 300 ประกอบมาตรา 240 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวมเป็นเงินรายละ 2,062,039 บาท และห้ามนายจักรพงษ์เป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลา 56 เดือน

มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลเมื่อผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้ศาลกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ