นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐหลังเมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นแรง และตลาดหุ้นเอเชียเปิดมาเช้านี้ก็ปรับตัวขึ้นตามกัน จากการที่นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ ได้ออกมาส่งสัญญาณการเจรจาการค้ากีบจีนจะมีความคลี่คลาย และนายโดนัลล์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาส่งสัญญาณการขึ้นภาษีกับจีนสูงเกินไป และจะปรับลดภาษีนำเข้าลง ประกอบกับการเจรจาการค้ากับอินเดียและสหรัฐมีทิศทางที่ดีออกมา ทำให้นักลงทุนคลายกังวลกับปัจจัยสงครามการค้าลงมาบ้างและเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาที่สินทรัพย์เสี่ยง
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ โดยที่ยังคงรอการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้า และติดตามการทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 ของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมา หลังจากกลุ่มแบงก์รายงานงบฯไตรมาสแรกไปแล้ว
โดยให้แนวต้าน 1,160-1,170 จุด แนวรับ 1,130 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (22 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,186.98 จุด เพิ่มขึ้น 1,016.57 จุด หรือ +2.66%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,287.76 จุด เพิ่มขึ้น 129.56 จุด หรือ +2.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,300.42 จุด เพิ่มขึ้น 429.52 จุด หรือ +2.71%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 34,787.93 จุด เพิ่มขึ้น 567.33 จุด หรือ +1.66% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,080.19 จุด เพิ่มขึ้น 517.87 จุด หรือ +2.40% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,308.15 จุด เพิ่มขึ้น 8.39 จุด หรือ +0.25%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 เม.ย.) 1,144.05 จุด เพิ่มขึ้น 9.34 จุด (+0.82%) มูลค่าซื้อขายราว 35,739.07 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (22 เม.ย.) 142.27 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.(22 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.95% ปิดที่ 64.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 เม.ย.) 3.26 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.35/65 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดคลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
- "แพทองธาร" รับเลื่อนเจรจาลดภาษีสหรัฐฯ มีสาระสำคัญต้องทบทวน ก่อนนัดหารือใหม่ ยันต้องวินวินทั้งคู่ เผยชั่งน้ำหนัก 2 มหาอำนาจ เน้นสมดุล "จีน-สหรัฐฯ" "พิชัย" แจงเหตุเลื่อน ขอดูผลประเทศอื่นเจออะไรบ้าง บอกรีบเกินไปไม่ดี ช้าก็ไม่ดี ยันมีเวลาอีก 70 วัน ระบุระดับปฏิบัติการยังไม่หยุด เกาะติด ทำแผนเจรจา ก่อนเสนอระดับนโยบายไปคุย เล็งหารือสภาพัฒน์-ธปท. ออกมาตรการช่วยเหลือ ฟื้นฟู "พาณิชย์" ยันการเจรจาไม่ล่ม กำลังรอนัดหมาย และมีโจทย์ใหม่ให้คิด บอกไทยไม่เลือกข้าง บาลานซ์ได้ทั้งจีน-สหรัฐฯ ล่าสุดสั่งคุมเข้มป้องกันสวมสิทธิสินค้าไทย 65 รายการไปสหรัฐฯ
- นักเศรษฐศาสตร์ส่งสัญญาณ สงครามการค้าสู่สงครามค่าเงิน "พิชัย ชุณหวชิร" ขุนคลัง เผยสหรัฐเตือนทุกประเทศไม่ให้แทรกแซงค่าเงิน หลังดอลลาร์อ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี "ดร.พิพัฒน์-KKP" ชี้นักลงทุนเริ่มไม่เชื่อมั่น "ดอลลาร์" หันตุน "ยูโร-ทองคำ" เข้าทุนสำรองแทน หวั่นทุกประเทศเล่นเกมค่าเงินอ่อน ระบุหากไทยเดินเกมช้าจะกระทบหนัก หนุน กนง.หั่นดอกเบี้ย 30 เม.ย.นี้ สอดคล้อง "ดร.อมรเทพ-CIMBT" มองสงครามค่าเงินรอบนี้รุนแรงผันผวนมากกว่ายุคทรัมป์ 1.0 เตือนบาทเสี่ยงแข็งโป๊ก จี้คลัง-ธปท.มีมาตรการดูแล หวั่นลามกระทบภาคการผลิต-บริโภค ฉุดความสามารถการแข่งขัน เผยเดือน เม.ย.บาทแข็งค่าขึ้น 5.6% แข็งแซงค่าเงินในภูมิภาค
- มู้ดบริโภคภายในประเทศร่วงหนัก ! ธุรกิจค้าปลีก 4 ล้านล้านเติบโตติดลบ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยชี้ คนไทยชะลอการใช้จ่าย นักท่องเที่ยวต่างชาติหาย ภาษีทรัมป์ทำเศรษฐกิจป่วยซ้ำอีกระลอก ร้านอาหาร แบรนด์ใหญ่ไม่ยอมเจ็บตัวนาน ไม่ทำเงินปิดสาขาในห้างดัง LINE MAN Wongnai ชี้ธุรกิจ ร้านอาหารอายุสั้น "เปิดแสน-ปิดแสน" ปิดตัวปีแรกมากกว่า 50% ด้านภาคท่องเที่ยวเร่งปรับกลยุทธ์ เจาะตลาดใช้จ่ายสูง หลังตัวเลข มี.ค.-เม.ย.ร่วงหนัก เหลือวันละไม่ถึง 1 แสนคน
- "องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐ" ประกาศยกระดับมาตรฐานการบินของไทยจาก CAT2 สู่ CAT1 บินตรงเข้าสหรัฐฯ ได้ในรอบ 10 ปี "สุริยะ" มองหนุนธุรกิจการบิน เสริมภาพลักษณ์ต่อการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นกลับมาไทยมากขึ้น วันนี้บอร์ด AOT เคาะ "ปวีณา" รักษาการซีอีโอ AOT คนใหม่ แทน "กีรติ" หลังยื่นหนังสือลาออกแล้ว "นายกฯ อิ๊ง" ยอมรับสหรัฐฯ ขอเลื่อนวันเจรจาการค้า แต่เชื่อว่าไม่ช้ากว่าประเทศอื่น
- ครม.ไฟเขียว "สมชัย สัจจพงษ์" อดีตปลัดคลัง นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ มีผลทันทีหลังได้รับการโปรดเกล้าฯ
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค. อยู่ที่ 91.8 ลดลงจาก 93.4 ในเดือน ก.พ.68 เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อก กระทบต่อความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวและส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ รวมทั้งมีเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% ที่ส่งออกไปสหรัฐ ทำให้อุตสาหกรรมกลุ่มนี้ชะลอตัวลง ภาคท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอตัวรวมถึงยอดส่งออกรถยนต์ลดลง จากการชะลอคำสั่งซื้อของคู่ค้าเพื่อรอความชัดเจนนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐส่งผลต่อการใช้จ่ายในภูมิภาค
*หุ่นเด่นวันนี้
- GFPT (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 11.80 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/68 ที่ 579 ล้านบาท ขยายตัว +24%y-y และ +51%q-q แรงหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบลดลง และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น ส่วนช่วงที่เหลือของปีคาดว่ายังดีต่อเนื่องตามต้นทุนที่ลดลง หนุนตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น ขณะที่ Valuation ปัจจุบันซื้อขายเพียง PE 6.6 เท่า ต่ำที่สุดในกลุ่มเนื้อสัตว์ เป็นโอกาสดีในการทยอยสะสม
- GPSC (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 38.50 บาท คาดผลประกอบการปี 68 ปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีกลับมาเดินเครื่องปกติจากปีก่อนที่มีหยุดไปในช่วง high season ประกอบกับคาดว่าปีนี้จะมีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนมากกว่าปีก่อนตลอดทั้งปี นอกจากนี้โครงการพลังงานลม CFXD จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เต็มปีและส่งผ่านส่วนแบ่งกำไรมาให้เทียบปีก่อนที่ขาดทุน ส่วนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Avaada ที่อินเดียถือเป็นอีกตัวขับเคลื่อนหลักในอนาคตจากโครงการที่ COD ไปแล้วและที่อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนา โดย GPSC อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทาง spin off Avaada เป็นอีกทางเลือกในการจัดหาเงินลงทุนรองรับการพัฒนาโครงการที่เหลือ สำหรับประเด็นค่าไฟฟ้างวด พ.ค.-ส.ค.68 ที่ ครม.ให้ไปปรับลดค่าไฟฟ้าให้ไม่เกิน 3.99 บาท/หน่วย ลดลงจากงวด ม.ค.-เม.ย.68 คาดว่าตลาด price in ไปแล้ว ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 68-69 อยู่ที่ 4.63 พันล้านบาท +14%YoY และ 4.94 พันล้านบาท +7%YoY
- AOT (กสิกรไทย)ราคาพื้นฐาน 63.98 บาท เราแนะนำเก็งกำไร AOT จากการที่ไทยได้กลับสู่ FAA Category 1 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ระยะยาวต่ออุตสาหกรรมการบินไทย โดยเฉพาะการเปิดเส้นทางบินไปสหรัฐฯ คาดส่งผลให้การบินไทยมีมาตรฐานได้รับการยอมรับมากขึ้นในระดับสากล ราคามีโอกาสฟื้นตัวหลังจากรับข่าวร้ายไปพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการเติบโตของเที่ยวบินต่างชาติที่เพิ่มขึ้น 5.5% YoY และจำนวนผู้โดยสารต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น2.3% ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 21.x เท่า และ ROE ปี 2568อยู่ที่ 18.5%