นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งขึ้น ขานรับเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาระบุว่ามีความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หากการขึ้นภาษีของสหรัฐกระทบตลาดแรงงาน ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) สหรัฐและค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า เป็นบวกต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง
อย่างไรก็ตามต้องติดตามการเจรจาการค้า ซึ่งจีนได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการเจรจาการค้ากับสหรัฐ สวนทางกับที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่าเริ่มมีการคุยกันแล้วกับจีน ภาพรวมยังเป็นสิ่งที่สร้างความผันผวนได้
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งวันนี้มีการเปิดเผย DELTA และ PTTEP
โดยให้กรอบแนวรับ 1,140 จุด และแนวต้าน 1,155 - 1,160 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,093.40 จุด เพิ่มขึ้น 486.83 จุด หรือ +1.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,484.77 จุด เพิ่มขึ้น 108.91 จุด หรือ +2.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,166.04 จุด เพิ่มขึ้น 457.99 จุด หรือ +2.74%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 35,387.67 จุด เพิ่มขึ้น 348.52 จุด หรือ +0.99%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,080.44 จุด เพิ่มขึ้น 170.68 จุด หรือ +0.78% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,300.39 จุด เพิ่มขึ้น 3.10 จุด หรือ +0.09%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 เม.ย.) 1,146.86 จุด ลดลง 6.91 จุด (-0.60%) มูลค่าซื้อขาย 40,628.92 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (24 เม.ย.) 2,078.58 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(24 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 66.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 เม.ย.) 4.51 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.43 แกว่งแคบจากวานนี้ ตลาดจับตาความคืบหน้าสงครามการค้า
- "แบงก์ชาติ" เปิดผลประเมิน เสถียรภาพระบบการเงินไทยปี 67 พบระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ ช่วยหนุนเศรษฐกิจโดยรวม แนะจับตา "4 ปัจจัยเสี่ยง" ที่อาจกระทบต่อ "เสถียรภาพระบบการเงิน" ห่วงความเชื่อมั่นนักลงทุนเปราะบางลง จากราคาสินทรัพย์ดิ่ง ดันต้นทุนออกหุ้นกู้พุ่ง หวั่นการเข้าถึงสินเชื่อต่ำ ชี้รายใหญ่ก่อหนี้สูง หวั่นนำไปสู่ความเปราะบางลง ขณะที่ภาคอสังหาชะลอตัวฟื้นตัวช้า
- ก.ล.ต. พร้อมไฟเขียวจัดตั้งกองทุน Thai ESG X จำนวน 37 กองทุน จาก 19 บลจ. ดีเดย์เสนอขายพร้อมกันวันที่ 2 พ.ค.นี้ วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 5 แสนบาท ด้าน "ชวินดา" นายกสมาคมบลจ. มั่นใจเม็ดเงินโอนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กว่า 8 หมื่นล้านบาท และมีเงินใหม่เข้ากองทุนอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท รวม 1 แสนล้านบาท พร้อมลุยตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 68
- "ส่งออก" มี.ค.พุ่ง 17.8% สูงสุดรอบ 36 เดือน ตลาดสหรัฐโตแรง 34.3% รวมไตรมาสแรกขยายตัว 15.2% สรท.มองครึ่งปีหลังคำสั่งซื้อลดฮวบ เผยภาษีทรัมป์กระทบหยุดรับคำสั่งซื้อจากคู่ค้าสหรัฐ เหตุกำไรไม่พอกับรายจ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้น บางรายเตรียมหาตลาดใหม่ คาดครึ่งปีหลังออเดอร์ลดฮวบ "กรุงไทย" คาดส่งออกไตรมาส 3 หดตัวแรง ระบุไตรมาสแรกโตชั่วคราว
- กบน. ลดอัตราเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ 40 สตางค์ต่อลิตร ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันหน้าปั๊มให้คงที่ มีผลตั้งแต่ 25 เม.ย. 68 ช่วยบรรเทาผลกระทบประชาชน ส่งผลให้รายรับลดลงวันละ 40.49 ล้านบาท ล่าสุดฐานะกองทุนฯ ยังติดลบ 52,513 ล้านบาท
- "ธนพล" นายกใหม่สมาคมไทยธุรกิจ การท่องเที่ยว ประเมินวิกฤติหนัก "จีนเที่ยวไทย" เสมือนอยู่ห้องไอซียู แนวโน้มคนจีนเที่ยวต่างประเทศปี 2568 ฟื้นแตะ 155 ล้านคน เท่าปี 2562 ก่อนโควิด แต่เลือก "ไม่มาไทย" อันดับร่วงหลุดโผ 5 เดสติเนชัน ที่คนจีนอยากไปมากสุด เหตุกังวลด้านความปลอดภัย หวั่นยอดหายเท่าตัวจาก 10 เหลือ 4-5 ล้านคน ของบ 320 ล้าน กระตุ้นชาร์เตอร์ไฟลต์จาก 20 เมืองรองในจีน ดึงเอเยนต์ทัวร์-สื่อจีน สำรวจสินค้าท่องเที่ยว "ททท." ปรับกลยุทธ์เร่งโกย 24 ตลาดระยะใกล้ -ไกลกลุ่มเติบโตสูง ชดเชยตลาดจีน
- "ต่างชาติ" แห่โยกเงิน ซื้อ "บอนด์ไทย" พุ่ง หลัง 3 เดือนแรก ซื้อสุทธิ 7 หมื่นล้าน เทียบกับเงินไหลออกปีก่อน กว่า 6.8 หมื่นล้าน หลังนักลงทุนหนี "สินทรัพย์เสี่ยง" มีความผันผวนสูง หันซบสินทรัพย์ปลอดภัย เหตุกังวลกำแพงภาษีทรัมป์
- "มนพร" ตรวจงาน "แลนด์บริดจ์" เตรียมเสนอ พ.ร.บ.SEC เข้า ครม.ภายในเดือน พ.ค.นี้ ก่อนเสนอบรรจุวาระแรก ถกเปิดประชุมสภา 3 ก.ค.2568 มั่นใจผ่านฉลุย พร้อมลุยขั้นตอนประกวดราคาปลายปีนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- OSP (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 21 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ที่ 1,204 ล้านบาท (+45%y-y, +112%q-q) จากอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดเพิ่มขึ้นเด่นสู่ระดับ 39.3% จาก 36.5% ในไตรมาส 1/67 ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PE ที่ 14.5 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับกลุ่ม ผสานอัตราปันผลคาดสูงระดับ 6% เพิ่มความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
- DELTA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 77.00 บาท เราแนะนำเก็งกำไร DELTA จากการเร่งสั่งสินค้า front-loaded inventory ก่อนขึ้นภาษี reciprocal tariffs ของสหรัฐฯ ในช่วงต้นไตรมาส 3 ปี 2568 โดยยอดส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์รายงานเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเติบโต 48% YoY จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ นำโดยชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์, PCBA และ Power supply เรามองการสั่งซื้อสินค้าจะยังแข็งแกร่งไปถึงไตรมาส 3/2568 นอกจากนี้ คาดกำไรในไตรมาส 1 และ 2 ปี 2568 จะได้ประโยชน์จากการเร่งสั่งสินค้านี้ และรายได้ประจำเดือนมีนาคมของ Delta Taiwan ที่อยู่ที่ 43 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน เติบโต 37.5% YoY จะส่งผลเชิงบวกต่อ Delta Thailand ด้วย
- OKJ (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 13.31 บาท แนวโน้มการดำเนินงานยังมีแรงหนุนจากแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ๆตามกระแสนิยม โดยล่าสุด เปิดร้านไก่ทอด Joe Wings ด้าน OKJ เอง ปีนี้ ตั้งเป้าผลักดันรายได้เติบโต 20-30% ส่วนแผนงานปี67-71 ต้องการรักษาทิศทางรายได้ไม่ต่ำกว่าปี 64-66 ที่เติบโตเฉลี่ย 40% และจะขยายสาขาทั้ง 3 แบรนด์หลัก คือ "โอ้กะจู๋" เป็น 67 สาขา+ร้าน Deliver & Kiosk รวม 37 สาขา/ "Ohkajhu Wrap & Roll" เป็น 20 สาขา/ "Oh Juice" เป็น 70 สาขา ปัจจุบัน ตลาดคาดกำไรสุทธิปี68และ69 ของ OKJ จะอยู่ที่ระดับ 307 ลบ.(+52%YoY) และ 401 ลบ.(+31%YoY)