ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ (22 พ.ค.) หลังนักลงทุนเกรงว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นจะทำให้หลายบริษัทมีผลกำไรลดลง กระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น และทำให้ธนาคารกลางไม่สามารถลดดอกเบี้ยลงได้อีก
นอกจากนั้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้รับแรงกดดันจากกระแสความวิตกที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยท่ามกลางดัชนีราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสำหรับปีนี้
"เศรษฐกิจโลกที่กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัวสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก แม้เราจะหลุดพ้นจากช่วงที่ย่ำแย่ที่สุดของวิกฤตซับไพร์มมาแล้ว แต่เราก็ยังต้องเจอกับปัญหาอื่นอย่างปัญหาราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้ออีก" โฮเวิร์ด จอร์จส์ รองประธานบริษัท เซาท์ ไชน่า ซีเคียวริตีส์ กล่าว
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งร่วง 417.17 จุด หรือ 1.6% ปิดที่ 25,043.12 จุด โดยมีหุ้นกลุ่มสายการบินและหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นแกนนำในการปรับลดลง
หุ้นไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ ร่วง 6% ในขณะที่หุ้นสายการบินคู่แข่งอย่างไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ก็ร่วงลงกว่า 5.6% ส่วนหุ้นแอร์ ไชน่า ลดลง 3.8% และ หุ้นคาเธ่ แปซิฟิก แอร์เวย์ส ลดลง 2.2%
หุ้นซันฮุงไก พร็อพเพอร์ตี ลดลง 2.2%, หุ้นซิโนแลนด์ ร่วง 4% และ หุ้นหั่งหลุง พร็อพเพอร์ตี ตกลง 3.7%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--