ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวลดลงต่อเนื่องกัน 3 วันทำการในวันนี้ (22 พ.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งเหนือระดับ 135 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ตลาดเอเชีย ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นทรุดลงอีกหลังจากที่แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของเอเชียชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2551 ลงสู่ระดับ 0.3-1.2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อ 3 เดือนก่อนที่ระดับ 1.3-2.0%
ความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดไม่ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
โกห์ มูลีห์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากเวสท์คอมบ์ ซิเคียวริตี้ส์คาดการณ์ว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดอาจจะยังคงอ่อนแอต่อไปในสัปดาห์นี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะ stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น)
ด้านนายเค อาจิธ นักวิเคราะห์จากยูโอบี เคย์เฮียน กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีชี้ให้เห็นว่า ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงปรับฐานหลังจากที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้วก่อนหน้านี้
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปรับตัวลดลง 36.04 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ 3,160.86 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,138.55 จุด และ 3,177.38 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.8 พันล้านหุ้น มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--