นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการสายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับบมจ. พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง เข้าซื้อขายในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2551 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “PM"
PM มีทุนจดทะเบียน 650 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยระหว่างวันที่ 14-16 พฤษภาคม 2551 บริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 215 ล้านหุ้น (หุ้นเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น, หุ้นสามัญเดิม 65 ล้านหุ้น) ในราคาหุ้นละ 3.10 บาท ให้แก่บุคคลทั่วไป 189.25 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบัน 25 ล้านหุ้น และผู้มีอุปการคุณ 0.75 ล้านหุ้น รวมมูลค่าระดมทุนกว่า 600 ล้านบาท โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี
ทั้งนี้ ณ ระดับราคาไอพีโอที่ PM เสนอขายราคา 3.10 บาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 9.69 เท่า โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษ) ในปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.32 บาท (Fully Diluted) และพิจารณาเปรียบเทียบอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ของหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ณ 12 พ.ค. 2551 ที่ 19 เท่า
PM ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายและเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว อาทิ ปลาสวรรค์ทาโร และคาลบี้ 2) ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม อาทิ ผักและผลไม้ดองตราแม่จินต์ และน้ำผลไม้อัดลมตรา BERRI 3) ผลิตภัณฑ์ลูกอม อาทิ ลูกอมโอเล่ 4) ผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเสริม อาทิ ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพตรากิเลน และ 5) ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวและของใช้ในครัวเรือน อาทิ สบู่ตรา Cussons และ Imperial Leather โดยจำหน่ายสินค้าผ่านช่องการจำหน่ายแบบร้านค้าสมัยใหม่ ช่องทางจำหน่ายแบบดั้งเดิม และรถขายเงินสด ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าครอบคลุมกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ
PM ถือหุ้นใหญ่โดย บริษัท พรีเมียร์ ฟิชชั่น แคปปิตอล ในอัตราร้อยละ 65.38 ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วหลังไอพีโอ
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--