บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) หรือ TIPCO คาดว่ารายได้ของบริษัทจะเติบโตต่อเนื่องจนแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า(ปี 55) เนื่องจากบริษัทยังคงส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการขยายตลาดส่งออก ทำให้ยอดขายปรับตัวดีขึ้นแม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีการชะลอการใช้จ่ายในประเทศก็ตาม
บริษัทยังมีแผนทยอยปรับขึ้นราคาจำหน่ายสินค้าเพื่อให้ทันกับต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าจะมีการปรับราคาโดยเฉพาะสินค้าที่ส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศอีกครั้งในไตรมาส 2/51 หลังจากที่ได้ปรับมาแล้วราว 10% ในช่วงไตรมาส 1/51
นายวิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล กรรมการผู้จัดการ TIPCO คาดว่า ยอดขายในไตรมาส 2/51 ยังเติบโตได้ต่อเื่นื่องจากไตรมาส 1/51 ที่มีอัตราการเติบโต 19% เนื่องจากบริษัทออกสินค้าใหม่ คือ น้ำแร่ และ ทิปโก้คูลฟิต ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขา่ยให้กับบริษัท ขณะที่สินค้าเดิมก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น
และ ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทก็จะมีการออกสินค้าใหม่ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ผู้บริโภคอีก 5 ประเภท ส่งผลให้ทั้งปีมีสินค้า้ใหม่จำนวน 7 ประเภท ได้แ่ก่ น้ำผลไม้ น้ำธััญญพืช น้ำแร่ คูลฟิต สปอร์ตดริงค์ กาแฟ และไอสครีม ดังนั้น เชื่อว่าทั้งปีการเติบโตรายบไดจากการขายก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 20% จากเป้าหมายที่วางไว้ และเติบโตจากปีก่อนที่ 4,366 ล้านบาท
"ไตรมาส 1 เรามียอดขายที่ดีขึ้น ถึงแม้คนจะชะลอการใช้จ่าย แต่คนก็หันซื้อเพื่อบริโภคในบ้านมากขึ้น และในปีนี้บริษัทได้วางงบโฆษณาประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนที่ 100 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นสินค้าให้มากขึ้นและใน 5 ปี วางการเติบโตที่ 1 หมื่นล้านบาท" นายวิวัฒน์ กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทก็จะขยายการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เพื่อรักษาสัดส่วนยอดขายจากในประเทศและต่างประเทศไว้ที่ระดับ 50:50 เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจ
นายวิวัฒน์ กล่าวต่อว่า บริษัทกำลังพิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้าที่ส่งไปจำหน่ายต่างประเทศอีกครั้งในไตรมาส 2/51 หากต้นทุนการผลิตยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาต้นทุนปรับเพิ่มขึ้น 7-8% ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่เ่กิดจากน้ำมัน ค่าแรง วัตถุดิบผลไม้และบรรจุภัณฑ์ แต่บริษัทก็ได้ปรับราคาขายในต่างประเทศไปแล้วในช่วงไตรมาส 1/51 ประมาณ 10%
ทั้งนี้ การปรับขึ้นดังกล่าวกลับส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทดีขึ้นประมาณ 4% ของยอดขายในไตรมาส 1/51 หรือปรับเพิ่มขึ้นมาที่อัตรา 28% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/50 อยู่ที่ 24% และยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 91 ล้านบาท
นายวิวัฒน์ กล่าวถึงราคาหุ้น TIPCO ที่ขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำมากว่า มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับเพิ่มขึ้นได้มากกว่านี้จากการเติบโตและการบริหารความเสี่ยงของบริษัท
"การที่หุ้นปรับลงในช่วงที่ผ่านมา อาจจะเกิดจากข่าวที่คนมองว่า ธุรกิจส่งออกน่าจะลำบากภายใต้ค่าเงินที่ผันผวน รวมถึงการที่บริษัทขายหุ้นบริษัทลูกออกไป แต่เรื่องนี้ไม่ได้กระทบต่อบริษัท"นายวิวัฒน์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--