บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)ตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจโทรคมนาคมทั้งด้านผลประกอบการ และด้านเทคโนโลยี แม้ประเมินในช่วง 3 ปีนี้ มองว่าธุรกิจโทรคมนาคมจะเติบโตน้อยลงเพียงปีละ 5-6% ต่อปี จากเดิมเติบโตได้ปีละ 10-12% แต่มั่นใจยังสามารถรักษาฐานลูกค้า และทำให้คุณภาพการบริการดีขึ้น ก็ยิ่งดึงลูกค้าจากค่ายอื่นเข้ามามากขึ้น โดยอาศัยจุดได้เปรียบจากการที่จะเป็นผู้ประกอบการที่หมดอายุสัมปทานก่อนรายอื่น ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นใบอนุญาตเป็นรายแรก
ADVANC มีกำหนดการเดินทางไปโรดโชว์ ที่สิงคโปร์ ในวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ และ ในวันที่ 3-5 มิ.ย.จะไปโรดโชว์ที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ร่วมกับ เมอร์ริลลินช์
"เราจะไปตอกย้ำว่าเรายังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย เราเห็นแนวทางการทำตลาด 3 จี เพียงรอขอใบอนุญาตอยู่ ปัญหาอยู่ว่าการเป็น Leader มีขึ้นมีลง ก็คงมีคำถามว่าคุณเป็น Leader แล้วคุณมีอัตราเติบโตอย่างไร รวมทั้ง movement จะมีอะไรอีกบ้าง จะไปอธิบายให้เขาไป"นายวิเชียร เมฆตระการ กรรมการผู้อำนวยการ ADVANC กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายวิเชียร กล่าวว่า บริษัทจะอาศัยความได้เปรียบคู่แข่งจากประเด็นการหมดอายุสัญญาสัมปทานให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เร็วกว่ารายอื่น และจะเป็น Operator รายแรกที่ได้รับใบอนุญาตหลังจากสิ้นอายุสัมปทานในปี 58 ขณะที่คู่แข่งเบอร์ 2อย่าง DTAC และเบอร์ 3 คือ TRUE จะหมดอายุสัมปทานในปี 61
การเปลี่ยนมาจ่ายค่าใบอนุญาตแทนการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ภายใต้สัญญาสัมปทาน จะทำให้ภาระของบริษัทลดลง และส่งผลให้ความสามารถในการปรับปรุงการบริหาร และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะระบบ 3G ที่จะเป็นผู้ให้บริการเป็นรายแรกจะกลายเป็น Strategic Move ของบริษัทในระยะต่อไป
"เราวางทุกอย่างที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ เราอยากเป็นคนที่นำเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ ๆ การให้บริการอย่างดี อย่างมีคุณภาพซึ่งทำมาต่อเนื่อง ภาพรวมๆเรายังเป็นอันดับหนึ่ง" นายวิเชียร กล่าว
นายวิเชียร กล่าวว่า ไม่ว่าสภาพตลาดจะเป็นอย่างไร บริษัทจะพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องหมือนกับที่ผ่านมา เพื่อจุดมุ่งหมายการสร้างลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างน้อย 50% ทุกปี และยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดในภาพรวมมากกว่า 50%
ในปี 51 บริษัทคาดว่าจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของอุตสาหกรรมโดยรวมจะเติบโตประมาณ 15-20% หรือคิดเป็นจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นประมาณ 8-10 ล้านราย ขณะที่สิ้นไตรมาส 1/51 ADVANC มีจำนวนลูกค้าใหม่ เพิ่ม 9.8 แสนเลขหมาย ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/51 มีฐานลูกค้ารวม 25.1 ล้านเลขหมาย
อนึ่ง รายได้จากการให้บริการในไตรมาส 1/51 จำนวน 21,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากไตรมาส 1/50 และ กำไรสุทธิ 5,124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.6% จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว
*รับลูกทีโอที เป็นพันธมิตรต่อหลังหมดสัมปทาน
นายวิเชียร กล่าวว่า บริษัทพร้อมเปิดทางเจรจาเงื่อนไขกับบมจ.ทีโอที ในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรภายหลังจากหมดระยะสัญญาสัมปทาน เพราะเป็นหลักการที่ดีและปัจจุบันก็เป็นคู่สัญญากันอยู่แล้ว แต่ยังต้องเจรจาในรายละเอียดกันอีกมาก โดยเฉพาะประเด็นการแลกเปลี่ยนหุ้น
ทั้งนี้ การที่บริษัทเลือกทีโอทีเป็นพันธมิตรไม่ใช่เป็นเพราะทีโอทีเป็นผู้ให้บริการพื้นฐาน เนื่องจากปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถขยายการบริการได้กว้างขวางอยู่แล้ว และได้ขยายไปสู่การให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Max) แต่บริษัทมองว่าการเปิดทางให้ทีโอทีเข้ามาถือหุ้นไม่ใช่เรื่องเสียหาย
"นักลงทุนก็อาจถามเรื่องนี้ เพราะทุกคนก็ทราบหมดแล้วว่าเป็นเพียงหลักการ แต่รายละเอียดเป็นยังก็ยังไม่รู้ ทำแล้วลงตัวไหม วิธีการ จะเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นเราอยู่แล้ว" นายวิเชียร กล่าว
*ยังกังวลโยงการเมืองถึง"เทมาเส็ค"
กรรมการผู้อำนวยการ ADVANC บริษัทก็ยังกังวลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่บริษัทอาจจะถูกใช้โจมตีในแง่ทางการเมือง โดยผู้ถือหุ้นบริษัท คือบมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN) ซึ่งมี กองทุนเทมาเส็ค จากสิงคโปร์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
"ความกังวลของเราอาจจะกังวลในแง่ที่ว่า คนบางคนอาจเอาเรื่องนี้มาพูด หรือเอามาฟ้องร้อง ถามว่าผู้ถือหุ้นใหญ่เราเป็นคนต่างชาติ บริษัทอื่นก็เป็นคนต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องกฎหมาย พ.ร.บ.ธุรกิจโทรคมนาคม จะลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติจึงยังทำไม่ได้
เทมาเส็คที่ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็ยังคงเป็นจุดอ่อน แต่ก้ไม่ใช่หน้าที่ของผู้บริหาร ที่ต้องมานั่งดูแล ถ้าผู้ถือหุ้นมองเห็นประเด็นนี้ ก็แก้ไขเสีย และก็มีหลายๆเรื่องที่เขาพยายามจะขุดคุ้ย ทำให้เราทำอะไรต้องระมัดระวัง แต่เรื่องผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลง และก็เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นเรื่องของ SHIN แล้ว"นายวิเชียร กล่าว
ก่อนหน้านี้ก็มีความพยายามปรับลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติจาก 49% ให้เหลือ 25% ใน พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม แต่ก็ไม่สำเร็จ ทั้งนี้ ADVANC และ DTAC มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติเกิน 25%
*ราคาหุ้นไม่หวือหวา จ่ายปันผลแน่นอนที่ 6.30 บาท
สำหรับราคาหุ้น ADVANC ที่ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมากนัก นายวิเชียร กล่าวว่า หุ้น ADVANC เป็นหุ้นที่ค่อนข้าง stable เพราะบริษัทมีจำนวนเงินจ่ายปันผล(Dividend Payout)เท่ากันต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว ในอัตรา 6.30 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็น กว่า 100% หรือถึง 200% ของกำไรสุทธิ และเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายที่จะจ่ายปันผลในอัตราอย่างน้อย 6.30 บาทต่อหุ้น
"เราอาจเป็นหุ้น growth stock แต่ไม่ได้มาก แต่ก็ไว้ใจได้ เพราะราคาไม่หวือหวา นักลงทุนเริ่มเก็บหุ้นเรพาะรอจ่ายปันผล ซึ่งเราจ่ายในอัตรา 6.30 บาท มาอย่างนี้ 2 ปีแล้ว" นายวิเชียร กล่าว
ราคาหุ้น ADVANC ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา(เม.ย.-พ.ค.)ราคาหุ้นแกว่งตัวในกรอบ 91 - 101 บาท ขณะที่โบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายไว้ 104 - 122 บาท