หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นราคาร่วงลงมากกว่าดัชนีตลาด ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างหนาแน่น โดยเมื่อเวลา 11.04 น.ราคาหุ้น TOP อยู่ที่ 63.50 บาท ลดลง 4 บาท (-5.93%)มูลค่าซื้อขาย 1,131.30 ล้านบาท
หุ้น PTTAR อยู่ที่ 28.50 บาท ลดลง 1.25 บาท(-4.20%)มูลค่าซื้อขาย 196.40 ล้านบาท
หุ้น IRPC อยู่ที่ 5.35 บาท ลดลง 0.15 บาท(-2.73%)มูลค่าซื้อขาย 48.39 ล้านบาท
หุ้น BCP อยู่ที่ 12.70 บาท ลดลง 0.20 บาท(-1.55%)มูลค่าซื้อขาย 5.73 ล้านบาท
บล.นครหลวงไทย ประเมินถึงเรื่องที่กระทรวงพลังงานหารือกับโรงกลั่น 4 แห่ง คือ บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR),บมจ.ไทยออยล์ (TOP), บมจ.ไออาร์พีซี(IRPC) และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)เพื่อหามาตรการช่วยลดกระทบจากราคาน้ำมันให้กับประชาชน โดยแนวทางที่หารือเบื้องต้นต้องการให้ดึงส่วนต่างกำไรของโรงกลั่นมาช่วยลดราคาน้ำมันดีเซลลงประมาณ 1 บาท/ลิตรในช่วงเม.ย —ก.ค 2551
โดยเห็นว่า การจำหน่ายน้ำมันดีเซลในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2551 อยู่ที่ 5,387 ล้านลิตร หรือเฉลี่ยประมาณ 58 ล้านลิตร/วัน หากจะชดเชยราคาน้ำมันดีเซลให้ลดลง 1 บาท/ลิตร ในช่วงเม.ย-ก.ค 2551 ทั้งระบบ SCIBS ประเมินเบื้องต้นว่าต้องใช้เงินชดเชยประมาณ 7,100 ล้านบาท
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.นครหลวงไทย คาดว่าหากภาครัฐออกมาตรการด้งกล่าวจะกระทบต่อกำไรสุทธิปีนี้ของหุ้นกลุ่มโรกงกลัน ประมาณ 10-23% โดย TOP ประทบที่ 10% และ BCP ที่ 23%
"ยังเป็นเรื่องที่ตลาดกังวล ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่กังวล ก็จะมีผลประทบโดยตรงต่อผู้ปผระกอบการท 4 ราย รวมถึง ปตท"นายสุกิจ กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวลง 5-6% มากกดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับลง 2%
อย่างไรก็ตาม เฉพาะเพียง 4 โรงกลั่นในกลุ่ม PTT ซึ่งมีสัดส่วนการผลิตประมาณ 67% หากรับภาระจะทำให้เงินชดเชยดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 4,809 ล้านบาท ซึ่งตกเป็นภาระกับ TOP, PTTAR , IRPC และ BCP กระจายกันไป โดยหากพิจารณาจากสัดส่วนการผลิตน้ำมันดีเซลในประเทศในปัจจุบันในรอบ 3 เดือนแรกของปี 2551 TOP มีสัดส่วนการผลิตสูงสุดที่ 25% รองลงมาเป็น IRPC ที่ 19% PTTAR ที่ 16% และ BCP ที่ 6% ซึ่งประเมินเบื้องต้นตามสัดส่วนดังกล่าว TOP จะมีภาระอุดหนุนประมาณ 1,818 ล้านบาท PTTAR ประมาณ 1,176 ล้านบาท IRPC ประมาณ 1,404 ล้านบาท และ BCP ประมาณ 410 ล้านบาท ซึ่งกระทบกับผลประกอบการหุ้นในกลุ่มประมาณ 10-23%
ในระยะสั้นซึ่งประเด็นดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเชื่อว่าจะยังคงเป็นปัจจัยลบต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นโดยเฉพาะทั้ง 4 บริษัท รวมถึง PTT