นายปิยะ ตันธนพิพัฒน์ รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาการลงทุน บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS)คาดรายได้และกำไรสุทธิในไตรมาส 2/51 จะดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาถ่านหินปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาตลาดโลกปรับขึ้นมา 100% ในขณะนี้ แต่บริษัทยังมีสต็อกเก่าทำให้ราคาขายยังปรับน้อยกว่าตลาดโลก
"ราคาถ่านหินปรับเพิ่มขึ้นไปสูงตามราคาน้ำมัน แต่เรายังมีสต็อกเก่าประมาณ 600 ล้านบาท ทำให้ราคาถ่านหินทั้งปีนี้จะทยอยปรับเพิ่มเฉลี่ย 20-25% จากราคาตลาดโลกที่ขึ้นมา 100%" นายปิยะ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 3.2 พันล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน โดยคาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100 ราย จากเดิมมี 300 ราย โดยส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร อัตรากำไรขั้นต้นปี 51 ยังอยู่ที่ระดับ 30% แต่ปี 52 อาจปรับตัวลดลง เพราะราคาขายไม่สามารถปรับขึ้นมากเพราะมีการแข่งขันสูง
ส่วนทิศทางราคาถ่านหินในตลาดโลกคาดว่าจะยังสูงต่อเนื่องเช่นเดียวกัยราคาน้ำมันจนกระทั่งจนถึงปี 52 แต่ราคาขายอาจจะไม่ปรับเพิ่มสูงเท่าตลาดโลก เนื่องจากการแข่งขันตลาดในประเทศรุนแรง แต่เชื่อว่าปีหน้าอาจปรับราคาขายได้เพิ่มขึ้นอีก 20-25%
อย่างไรก็ตาม บริษัทพยายามลดค่าขนส่งถ่านหิน โดยการสร้างท่าเรือที่ อ.สวนส้ม จ.สมุทรสาคร และ อ.เมือง จ.อยุธยา ซึ่งคาดจะเล้วเสร็จในครึ่งหลังปี 51 โดยท่าเรือทั้งสองแห่งจะมีคลังสินค้าและท่าเรืออยู่บริเวณเดียวกัน ทั้งนี้ บริษัทได้สั่งซื้อเรือจำนวน 10 ลำ ซึ่งจะรับมอบตั้งแต่ไตรมาส 2/51 ถึงไตรมาส 3/51 ซึ่งจะช่วยให้ลดค้าใช้จ่ายด้านการขนส่ง
นอกจากนี้ ในการเจรจาพันธมิตรจากเยอมรมันในการจัดตั้งบริษัท ดำเนินธุรกิจบำบัดขยะ นายปิยะ กล่าวว่า ระหว่างนี้เจรจาในรายละเอียด คาดว่าจะสรุปได้ต้นเดือนมิ.ย.นี้ โดยสัดส่วนการถือหุ้น UMS จะถือหุ้นในสัดส่วน 51% และพันธมิตรเยอรมัน จะถือ 49%
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--