PM เปิดเทรดวันแรกที่ 3.10 บ./หุ้น เท่าราคา IPO ที่ 3.10 บาท

          หุ้น PM เปิดเทรดวันแรกที่ 3.10 บาท เท่าราคา IPO ที่ 3.10 บาท/หุ้น มูลค่าการซื้อขาย 87.31 ล้านบาท 
          ทั้งนี้ เมื่อเวลา 9.59 น.ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.10 บาท โดยราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 3.12 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 3.08 บาท 
          บทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่าในปีนี้กำไรปกติของ บมจ.พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง (PM) จะเติบโต 16% yoy เป็น 240 ล้านบาท (0.37 บาท/หุ้น) แม้ว่าบริษัทจะต้องเริ่มจ่ายภาษีหลังจากในปีก่อนไม่ต้องเสียภาษีเนื่องจากมีผลขาดทุนทางภาษียกมา การเติบโตของบริษัทจะถูกผลักดันจากการขยายตัวต่อเนื่องของธุรกิจจัดจำหน่ายและเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าซึ่งจะเติบโตตาม อุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวซึ่งเติบโตปีละ 9-10% ประกอบกับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงหลังจากมีการจ่ายคืนเงินกู้ หลังการเพิ่มทุนส่วนของผู้ถือหุ้นจะพลิกเป็นบวก จากที่ติดลบ 70 ล้านบาทในสิ้นปี 2550 ส่วนฐานะการเงินก็จะมีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยคาดการณ์อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ 0.2 เท่าจากการใช้เม็ดเงินส่วนหนึ่งจากการเพิ่มทุนมาจ่ายคืนหนี้สินบางส่วน
           จากผลประกอบการที่เติบโตขึ้น กำไรจากการขายเงินลงทุนของบริษัทร่วม และกำไรจากการได้รับลดหนี้จากการจ่ายคืนหนี้ก่อนกำหนด และ/หรือ การโอนส่วนเกินมูลค่าหุ้นไปล้างขาดทุนสะสม เราคาดว่าผลขาดทุนสะสมของบริษัทจะถูกล้างหมดไปซึ่งทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้ โดยบริษัทคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลได้จากกำไรของปีนี้ซึ่งคาดไว้ที่ประมาณ 0.18 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6%
          ราคาเหมาะสมที่ 4.06 บาท ซึ่งประเมินด้วย PER 11 เท่าซึ่งคิดเป็นส่วนลด 30% จาก PER ของกลุ่มอาหารโดยเฉลี่ยที่ 16 เท่า
          อนึ่ง ระดับราคาไอพีโอที่ PM เสนอขายราคา 3.10 บาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 9.69 เท่า โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษ) ในปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.32 บาท (Fully Diluted) และพิจารณาเปรียบเทียบอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ของหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ณ 12 พ.ค. 2551 ที่ 19 เท่า
          PM ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายและเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว อาทิ ปลาสวรรค์ทาโร และคาลบี้ 2) ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม อาทิ ผักและผลไม้ดองตราแม่จินต์ และน้ำผลไม้อัดลมตรา BERRI 3) ผลิตภัณฑ์ลูกอม อาทิ ลูกอมโอเล่ 4) ผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเสริม อาทิ ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพตรากิเลน   และ 5) ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวและของใช้ในครัวเรือน อาทิ สบู่ตรา Cussons และ Imperial Leather  โดยจำหน่ายสินค้าผ่านช่องการจำหน่ายแบบร้านค้าสมัยใหม่ ช่องทางจำหน่ายแบบดั้งเดิม และรถขายเงินสด ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าครอบคลุมกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ   
          PM ถือหุ้นใหญ่โดย บริษัท พรีเมียร์ ฟิชชั่น แคปปิตอล  ในอัตราร้อยละ 65.38  ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วหลังไอพีโอ