นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ริช เอเชีย สตีล (RICH) คาดว่า บริษัทจะได้รับเงินจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น(วอร์แรนท์) 5 พันล้านหน่วย เป็นเงินประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อนำไปชำระเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 1.5 พันล้านบาท ที่จะครบกำหนดชำระในเดือน มิ.ย.52 และที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
"คิดว่าราคาใช้สิทธิ 0.40 บาท น่าจะจูงใจผู้ถือหุ้น คิดว่าเป็นราคาสมเหตุสมผล เราคิดว่าน่าได้เงินราวปีหน้า ซึ่งตรงกับดีลที่จะครบในปีหน้า เรายังมีเวลาอยู่" นายสมเกียรติ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ราคา RICH วานนี้ปิดที่ 0.81 บาท บวก 0.04 บาท
วานนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 5 พันล้านหน่วย เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า และกำหนดราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 0.40 บาทต่อหุ้น โดยวอแรนท์มีอายุ 3 ปี
ขณะที่นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซียพลัส แนะนำ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น RICH เพื่อรอรับวอร์แรนท์ฟรีแล้วนำไปขายทำกำไร แต่ไม่แนะนำให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ เพราะราคา RICH ปรับขึ้นสูงมากแล้วจากปีก่อนที่ 0.13 บาท ปรับขึ้นมาถึง 0.84 บาทในวันนี้ และหากลูกหุ้นเข้ามา ราคาก็จะ dilute ลงไปใกล้กับราคาแปลงสิทธิ
*โอกาสรายได้เกิน 1 หมื่นลบ.
นายสมเกียรติ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 51 ที่ 1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 4.6 พันล้านบาท โดยมาจากธุรกิจท่อเหล็ก ซึ่งเป็นธุรกิจเดิม ประมาณ 4,500 ล้านบาท และมาจาก 2 ธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจเหล็กแปรรูป ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 1.5 พันล้านบาท โดยมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ต้นปีเฉลี่ยเดือนละ 100 ล้านบาท และ ธุรกิจจัดหาเศษเเหล็ก ประมาณ 3.5 พันล้านบาท จะทำรายได้เข้ามาในไตรมาส 3/51 จึงคาดว่ารายได้ครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก
"ธุรกิจท่อเหล็กเรา maintain ใกล้เคียงปีที่แล้ว แต่ในข้อเท็จจริงคงจะสูงกว่านี้ เพราะราคาเหล็กเพิ่มขึ้นเท่าตัวขณะนี้ คิดว่ารายได้น่าจะเกินกว่าที่วางไว้ แต่เราตั้งเป้าไว้ 1 หมื่นล้านก่อนสูงจากจากปีก่อนมาก ในส่วนของเราก็พยายามทำเท่าที่จะทำได้"นายสมเกียรติ กล่าว
สำหรับ 2 ธุรกิจใหม่ มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องไปปีหน้า ในส่วนธุรกิจเหล็กแปรรูป ในปีนี้มีกำลังการผลิต 4-4.5 หมื่นตันต่อปี จากกำลังการผลิตเต็มที่ 9 หมื่นตันต่อปี ซึ่งปีหน้าก็จะขยายเพิ่ม ส่วนธุรกิจจัดหาเศษเหล็กในปีนี้ มีจำนวนขายประมาณ 8 หมื่นตัน
นายสมเกียรติ คาดว่า ธุรกิจท่อเหล็กในปีนี้จะมียอดขาย 2 แสนตันใกล้เคียงปีก่อน จากกำลังการผลิต 1.2 แสนตันต่อปี ที่เหลือบริษัทจัดหาจากแหล่งอื่น แต่ในปีนี้ยังไม่มีแผนขยายกำลังการผลิต เพราะดีมานด์ในประเทศทรงตัว และการลงทุนใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ คาดปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8% จากปีก่อนอยู่ที่ 5% เป็นผลดีจากราคาเหล็กที่ปรับเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ส่งผลดีต่อกำไรสุทธิในปีนี้ โดยแนวโน้มราคาเหล็กก็ยังสูงอยู่ จากสถานการณ์ 2-3 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้ปรับขึ้นไปแรง แต่เป็นลักษณะทรงตัวบวก เพราะดีมานด์ในประเทศก็มีผล แต่ครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น เพราะความต้องการจากประเทศจีนมีแนวโน้มมากขึ้นหลังจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง
นายสมเกียรติ กล่าวถึงการจ่ายเงินมัดจำ 200 ล้านบาทเพื่อเข้าศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในบริษัทแห่งหนึ่งว่า ธุรกิจดังกล่าวไม่ได้อยู่ในกลุ่มเหล็ก แต่เป็นธุรกิจที่จะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของตัวธุรกิจ คาดว่าจะใด้ข้อสรุป ส.ค. ขณะนี้จึงยังเปิดเผยรายละเอียดมากไม่ได้ รอศึกษาความเป็นไปได้ก่อน
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--