บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN)เดินหน้ารุกเทคโอเวอร์กิจการศูนย์การค้า พร้อมมองหาที่ดินเพิ่มเติมอีก 2-3 แปลง ขยายธุรกิจในประเทศทั้งในกทม.และต่างจังหวัดให้เต็มกำลัง โดยอาศัยเงินทุนหลักจากการขยายขนาดกองทุน CPNRF ที่จะดำเนินการภายในปีนี้ ขณะที่แผนขยายธุรกิจไปสู่ต่างประเทศยังรีรอดูสถานการณ์ให้รอบคอบ โดยเฉพาะผลกระทบจากปัญหาซับไพร์มของสหรัฐ
นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน CPN คาดว่า บริษัทจะสามารถสรุปดีลเทคโอเวอร์กิจการในต่างจังหวัด 1 แห่ง ในช่วงต้นมิ.ย.นี้ โดยจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
นอกจากนั้น ยังมีดีลที่เจรจาอยู่อีก 2 แห่ง ที่จะเข้าเทคโอเวอร์กิจการทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมทั้งมองหาที่ดินใหม่เพื่อขยายสาขาเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง
นายนริศ กล่าวว่า บริษัทจะลงทุนเพิ่มในโครงการศูนย์การค้าที่ จ.ขอนแก่นอีก 1 พันล้านบาท จากเดิม 1,650 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนซื้อที่ดินเพิ่่ม เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตที่บริษัทมีแผนจะก่อสร้างโรงแรมในโครงการดังกล่าวด้วย
ในด้านเงินลงทุนในปีนี้คาดว่าจะใช้เม็ดเงินราว 8.65 พันล้านบาท โดยจะมาจากการเพิ่มขนาดกองทุน CPNRF อีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดย CPN จะขายศูนย์การค้าเชียงใหม่และเซ็นทรัลปิ่นเกล้าเข้าเป็นทรัพย์สินกองทุน ซึ่งขณะนี้รอการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท น่าจะทำให้ CPN ได้เม็ดเงินประมาณ 7 พันล้านบาท ส่วนงบลงทุนที่เหลือมาจากกระแสเงินสดบริษัท
ส่วนความคืบหน้าการออกกองทุนสำนักงาน ขณะนี้ชะลอออกไปก่อนเป็นปี 52 รวมทั้ง การออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศที่เดิมมีแผนจะจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ด้วย เนื่องจากหลังจากที่ทางการยกเลิกมาตรการ 30% ทำให้บริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำกองทุนอสังหาฯ ไปจดทะเบียนต่างประเทศแล้ว
ประกอบกับการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากปัญหาซับไพร์มในสหรัฐส่งผลกระทบไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้บริษัทต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการเข้าไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หากบริษัทตัดสินใจแน่นอนที่จะเข้าลงทุนในต่างประเทศแล้ว ก็จะหยิบยกแผนงานการออกกองทุนฯมาพิจารณาใหม่
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ CPN ระบุว่ากำลังศึกษาแผนขยายการลงทุนในเวียดนาม จีน และ อินเดีย
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--