นายยรรยง อัครจินดานนท์ รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บมจ.อาร์เอส(RS) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรุกธุรกิจออนไลน์เพื่อยอดธุรกิจหลัก ด้วยการเปิดตัวเกมออนไลน์ และค่ายพลงออนไลน์
บริษัทได้เปิดตัว “เกมออนไลน์ชีซ่าไฟท์เตอร์" ขึ้น ซึ่งเป็นเกมออนไลน์ที่อาร์เอสพัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรก โดยนำคาแรกเตอร์ของศิลปินจริงๆมาพัฒนาเป็นตัวละครในเกม และในเดือนต.ค.จะเปิดตัวเกมใหม่มากระตุ้นตลาด ซึ่งปัจจุบันนี้เกมออนไลน์ชีซ่าไฟท์เตอร์มียอดคนเข้ามาเล่นเกมสูงกว่า 20,000 IP/วัน และในไตรมาสที่ 3/51จะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นให้สามารถเล่นแบบมัลติเพลย์เยอร์ได้
นายยรรยง กล่าวว่า ตลาดเกมออนไลน์ในประเทศไทยเป็นตลาดที่โตมากมีการแข่งขันสูง รวมถึงมีมูลค่าตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 25% โดยในปี 51 คาดว่ามูลค่าตลาดรวมของเกมออนไลน์จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 พันล้านบาท จาก 2.8 พันล้านบาทในปี 50 และ 970 ล้านบาทในปี 46 ซึ่งเป็นปีแรก
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/51 บริษัทยังมีแผนเปิดตัวค่ายเพลงออนไลน์แห่งแรกของไทย ภายใต้ชื่อ"เพลงดอทคอม"(Pleng.com)ชูคอนเซ็ปต์ความเป็น“ออนไลน์มิวสิคคอมมูนิตี้"ที่มีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเลือดใหม่ทางดนตรีที่มีอายุระหว่าง 15-30 ปี จุดเด่นอยู่ที่การคัดเลือกศิลปินด้วยการส่งผลงานเพลงเข้ามาทางเว็บไซต์ และให้ผู้ฟังทั้งประเทศเป็นคนตัดสินผลงาน หากศิลปินคนใดที่มียอดดาวน์โหลดถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ก็จะมีสิทธิออกอัลบั้มและเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดทันที
"ลักษณะแบบนี้ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน และอาร์เอสมองว่าเพลงดอทคอมจะช่วยขยายฐานของอาร์เอส ทำให้เกิดลูกค้ากลุ่มใหม่ที่อาร์เอสไม่เคยมี รวมถึงมีการทำเพลงแนวใหม่ที่อาร์เอสไม่เคยทำมาก่อนอีกด้วย"นายยรรยง กล่าว
ในปีนี้บริษัทให้ความสำคัญกับธุรกิจโมบายบิสสิเนสและจะเน้นทำการตลาดในเชิงลึกเพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนเปิดตัว Artist WAP Portal รวมถึง Mobitube ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่กลุ่มเป้าหมายจะสามารถเข้าถึงคอนเทนต์อาร์เอสได้เป็นอย่างดี และยังจะพัฒนาให้สามารถเข้าเว็บไซต์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ภายในปีนี้
สำหรับภาพรวมธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ในปีนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว และคาดว่ามูลค่าตลาดบริการเสริมของปีนี้โตกว่าปีที่แล้ว 10-15 % ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ของอาร์เอสในช่วงไตรมาส 1/51 มีอัตราการเติบโตกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สัดส่วนรายได้ของธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มาจาก บริการเสียงรอสาย(Ring Back Tone) คิดเป็นสัดส่วน 60%, บริการโมบายคอนเทนต์(Mobile Content) คิดเป็น 40% ซึ่งสามารถจำแนกออกได้ดังนี้ เสียงเรียกเข้าแบบทรูโทน(True Tone) คิดเป็นสัดส่วน 39% , บริการฟูลซองดาวน์โหลด(Fullsong Download) คิดเป็นสัดส่วน 26% , บริการฟูลวีดีโอดาวน์โหลด (Full VDO Download) คิดเป็นสัดส่วน 13% เป็นต้น
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--