SNC เชื่อกำไรขั้นต้นฟื้นช่วง H2/51 จากผลิตชิ้นส่วนต้นน้ำ-ออร์เดอร์เพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 29, 2008 10:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์(SNC)เชื่ออัตรากำไรขั้นต้นในช่วงไตรมาส 3-4/51 จะปรับตัวดีขึ้นหลังจากเริ่มผลิตชิ้นส่วนต้นน้ำ และคาดว่าออร์เดอร์จำนวนมากจะเข้ามาในช่วงปลายปีเมื่อสายการผลิตโรงงานเดิมของยอร์กเริ่มเข้าที่ ซึ่งจะส่งผลดีให้เห็นชัดเจนในปีหน้าทั้งรายได้และกำไรเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน จากที่ในปีนี้แม้รายได้จะเข้ามามาก แต่อัตรากำไรขั้นต้น-อัตรากำไรสุทธิกลับลดลงเพราะเน้นงานรับจ้างผลิต(OEM)เป็นส่วนใหญ่ 
นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SNC เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า เป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 100% จากปีก่อนที่ 2.7 พันล้านบาทก็จริง แต่อัตรากำไรขั้นต้นคงจะลดลง เพราะงานส่วนใหญ่เป็นงาน OEM และต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นมากเป็นตัวฉุดกำไร
"ปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงแน่นอนต้องรอให้เราปรับตัวประมาณ 1 ปี เพราะปีนี้มียอดขาย OEM มาดึงลง ส่วนจะลดลงเยอะหรือไม่ ยังบอกไม่ได้เพราะยังเหลือเวลาอีก 6 เดือนกว่า แต่ถ้าจะไปเหมารวมตอนนี้แล้วไปประเมินทั้งปีก็คงจะไม่แฟร์สาหรับผม"นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงไตรมาส 1/51 และไตรมาส 2/51 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากผลกระทบด้านต้นทุน ซึ่งเกิดขึ้นเหมือนกันหมดทั้งอุตสาหกรรม แม้ว่าจะเจรจากับลูกค้าและซัพพลายเออร์เพื่อรับปัญหาด้านต้นทุนไปบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ช่วยให้อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้นมากนัก
นอกจากนั้น ช่วงนี้บริษัทเพิ่งเริ่มต้นกับสายการผลิตใหม่หลังซื้อโรงงานจากบริษัท ยอร์ก(ประเทศไทย)โดยขณะนี้การติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติมครบถ้วนแล้ว รอเพียงความพร้อมที่จะโยกออร์เดอร์จากลูกค้ามาให้ ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงที่มีต้นทุน จากนั้นช่วงปลายไตรมาส 3/51-ไตรมาส 4/51 ก็จะเป็นไปตามแผน และปีหน้าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
"ไตรมาส 1 ที่อัตรากำไรสุทธิลดลงเนื่องจากเราไปรับจ้างประกอบ ยอดขายเข้ามาแต่กำไรไม่เข้า เพราะกำไรอยู่ที่งานต้นน้ำที่เรายังไม่ได้ทำแต่เราจะเริ่มทำในเดือนก.ค.-ก.ย.ปีนี้โดยจะทยอยเข้ามา แต่ไตรมาส 4 ออร์เดอร์แน่นแน่นอน"นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ไม่ให้ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 7.8% แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/51 อัตรากำไรสุทธิจะลดลงเหลือ 5.6% ส่วนไตรมาส 2/51 ก็คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
"เป้าหมายเราจะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้ที่ 7.8% เท่าปีก่อน และไตรมาส 2/51 ก็พยายามทำให้ได้ที่ 7.8% เพราะยังเหลือเวลาอีก 1 เดือนกว่า แต่ตอนนี้ทั้งราคาทองแดง เหล็ก น้ำมันปรับขึ้นกันสนุกสนาน"นายสมชัย กล่าว
*ครึ่งปีหลังเห็นกำไรฟื้นตัวชัดเจนหลังเริ่มผลิตชิ้นส่วนต้นน้ำ
นายสมชัย กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่ากำไรของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสแรก โดยเฉพาะเมื่อบริษัทเริ่ม
ผลิตชิ้นส่วนต้นน้ำ เพื่อเข้าสู่เป้าหมายการผลิตเครื่องปรับอากาศครบทั้งกระบวนการ จากเดิมที่รับจ้างประกอบเครื่องปรับอากาศ
"ธุรกิจรับจ้างประกอบแอร์ก็ไม่ใช่เป้าหมายของบริษัทแต่เป้าหมายคือทำงานทั้งหมดของแอร์ 1 ตัว เมื่อก่อนเราเป็นผู้รับจ้างทำชิ้นส่วนของแอร์และให้ลูกค้าประกอบการ เราก็จะได้เฉพาะงานท่อ (Piping) แต่ถ้าเราประกอบเองเราก็จะได้ทั้ง Piping พลาสติก เหล็ก และคอยล์ ตอนนี้กำลังการผลิตพร้อมระดับหนึ่ง ซึ่งก็จะทำให้ปลายไตรมาส 3 ต้นไตรมาส 4 ก็จะดี"
อนึ่ง ไตรมาส 1/51 กำไรสุทธิอยู่ที่ 66.16 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/50 ที่ 67.22 ล้านบาท
ตั้งแต่ไตรมาส 4/51 เป็นต้นไปเป็นช่วงที่บริษัทจะเริ่มปรับตัวเริ่มรับรู้รายได้หนักๆ หลังจากที่โรงงานใหม่มีความพร้อมมากขึ้น โดยภาพรวมของธุรกิจ OEM คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุน 2 ปีครึ่งถึง 3 ปี ถือว่าเร็วจากที่ลงทุนไปถึง 400-500 ล้านบาท โดยจะมีกำลังการผลิตเต็มที่ 2 ล้านเครื่องต่อปี แต่จะทยอยเพิ่มการผลิตขึ้นมาตามออร์เดอร์เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง ซึ่งในช่วงปีนี้จะผลิตเพิ่มเป็น 7 แสนเครื่อง ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านเครื่องในปีหน้า
ขณะที่สายการผลิตเดิมที่ จ.ระยองปีนี้คาดว่าจะเกือบ 2 แสนเครื่องตามเป้าหมาย แต่ปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มอีกเท่าตัว หลังจากปรับปรุงไลน์การผลิต และฝึกอบรมพนักงานใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งพัฒนาระบบจัดซื้อและระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 2 เท่าให้ได้ภายในปีนี้และปีหน้า
นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับอัตรากำไรต่อหุ้น(EPS)ด้วยการพยายามควบคุมรายจ่าย โดยเฉพาะรายจ่ายด้านการบริหาร เพื่อทำให้อัตรากำไรสุทธิดีขึ้นแม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ในระดับต่ำ เพราะหาก EPS ดีขึ้นทุกอย่างดีขึ้นทั้งหมด โดยในกรณีที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลง แต่ค่าใช้จ่ายขายบริหารลดลงตามด้วยก็ทำให้อัตรากำไรสุทธิสูงขึ้น และหากเรา invest เพิ่มขึ้นและได้สิทธิประโยชน์จาก BOI ก็จะส่งผลดีต่อ EPS
"ผมว่า EPS สำคัญ ผมมองที่ EPS ทำยังไงที่จะทำให้กำไรต่อหุ้นไม่ลดลง หรือมากขึ้นมากกว่า แต่จะให้ perfect ทั้ง 4-5 ตัวที่พูดไปก็สุดยอด...คงจะยาก ถ้าผมจะได้ยอดขายเพิ่มขึ้นก็ต้องลดราคาสู้ เมื่อลดราคาสู้ gross margin ก็ต้องลดลง ถ้าเราเอายอดขายเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายขายบริหารก็เพิ่มขึ้นด้วย และต้องรักษาสิทธิทาง BOI ต้องพยายามทุกจุดเลย"นายสมชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ