นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น(ประเทศไทย)หรือ SIS คาดว่า กำไรและรายได้ในปีนี้จะเติบโต 10% เป็นการเติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10-20% หลังจากที่การลงทุนและการจับจ่ายใช้สอยของภาคธุรกิจที่กลับมาใช้จ่ายมากขึ้น และกลุ่ม Consumer ที่ยังแข็งแกร่งและเติบโตได้ ถึงแม้ในปีนี้จะไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีมีปัจจัยที่สนับสนุนจากการที่บริษัทปรับเปลี่ยนโดยหันมาเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภท Premium มากขึ้น เช่น อุปกรณ์เสริม หรือ PDA Phone ที่มีมาร์จิ้นสูงประมาณ 30% ซึ่งการปรับสัดส่วนดังกล่าวทำให้ภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/51 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7% จากในไตรมาส 4/50 อยู่ที่ 5-6%
สำหรับยอดขายในไตรมาส 2/51 นายสมชัย เชื่อว่าจะเติบโตได้ดีกว่าไตรมาส 1/51 ที่มียอดขาย 2.8 พันล้านบาท แม้ว่าปัจจัยการเมืองอาจจะส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน แต่ยังเชื่อว่าผู้บริโภคยังต้องการซื้ออุปกรณ์เืพื่อใช้งาน อีกทั้งยังมีการบันทึกกำไรจากค่าเงิืน ถึงแม้ในไตรมาส 2/51 จะน้อยหรืออาจทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/51 ที่มีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 10 กว่าล้านบาท เพราะขณะนี้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มนิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ลดความเสี่ยงจากค่าเงินด้วยการทำฟอร์เวิร์ด
"การที่เราได้ปรับเปลี่ยนโดยหันมาเน้นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ผลสะท้อนเริ่มจะเห็นในปีนี้ และน่าจะทำให้ทั้งปียังเติบโตได้ดี เพราะประโยชน์ใช้สอยของ PC จะเพิ่มขึ้นและ IT ยังคงเติบโต 2 หลักไปอีกหลายปี แม้ว่าผมจะไม่สบายใจในเรื่องการเมืองสักเท่าไหร่" นายสมชัย ระบุ
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทาง SIS TECHNOLOGIES (THAILAND) PTE. LTD. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากสิงคโปร์ ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นที่ 49.47% และได้มีการหารือถึงการทำธุรกิจ โดยต้องการให้บริษัทขยายธุรกิจไปแถบอินโดจีน แต่คงยังไม่เห็นในระยะสั้นนี้ อาจกำหนดเป็นแผนในระยะยาว เพราะมองว่าธุรกิจไอทีในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอยู่
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--