"แม่น้ำสแตนเลสไวร์"จะขายหุ้น IPO 75 ล้านหุ้น เพื่อใช้สร้างโรงงานใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 2, 2008 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ. แม่น้ำสแตนเลสไวร์ ได้นับ 1 ข้อมูล Filing เมื่อวันที่  28 พฤษภาคม 2551 เนื่องจากบริษัทฯจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชน(IPO)จำนวน 75 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 25.08%ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ และการเสนอขายครั้งนี้ไม่ได้มีการจัดสรรรหุ้นให้แก่ประชาชนในวงกว้าง เนื่องจากจำนวนหุ้นที่เสนอขายมีจำนวนจำกัด 
บริษัทฯมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ และบริษัทฯมีความประสงค์จะนำหุ้นเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) โดยแต่งตั้งบล.พัฒนสินเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
โครงการในอนาคตของบริษัทฯ คือโครงการก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งที่ 2 ตั้งที่จ.สมุทรปราการ เนื่องจากปัจจุบันแม้บริษัทจะเดินสายการผลิตเต็มกำลังการผลิต แต่ยังไม่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ให้เพียงพอต่อปริมาณความต้องการลวดและเพลาสแตนเลสของลูกค้าในปัจจุบันได้ โดยโรงงานของบริษัทปัจจุบันมีกำลังการผลิตโดยรวมประมาณ 6,000 เมตริกตันต่อปี สำหรับโรงงานแห่งใหม่นี้จะมีกำลังการผลิตลวดและเพลาสแตนเลสประมาณ 12,000 เมตริกตันต่อปี โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท โดยงบลงทุนแบ่งออกเป็นค่าที่ดินและส่วนปรับปรุงประมาณ 70 ล้านบาท ค่าก่อสร้างอาคารโรงงานประมาณ 280 ล้านบาท และค่าเครื่องจักรและวัสดุอุปกรณ์ประมาณ 50 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ และคาดว่าโรงงานแห่งใหม่นี้จะสามารถเริ่มเดินสายการผลิตได้ในไตรมาสที่ 4/51
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะปรับเปลี่ยนโรงงานของบริษัทในปัจจุบันให้มีความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ประเภท Special Steel เช่น Free Cutting Wire & Bar เป็นต้น ซึ่งสามารถนำไปใช้ในหลายประเภทอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรและชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ เป็นต้น โดยบริษัทมีโครงการที่จะยื่นขอรับสิทธิและประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI)เพื่อสิทธิประโยชน์ด้านภาษีในส่วนของโครงการที่จะปรับปรุงโรงงานนี้
บมจ. แม่น้ำสแตนเลสไวร์ ประกอบธุรกิจผลิตเส้นลวดสแตนเลส เพลาสแตนเลส และลวดเชื่อมสแตนเลส เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องครัว อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง และอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น
ในปี 2550 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,149.84 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 51.02 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 134.26 ล้านบาท กำไรสุทธิ 103.77 ล้านบาท และสินทรัพย์รวม ณ 31 ธ.ค.2550 เท่ากับ 775.48 ล้านบาท หนี้สินรวม 509.98 ล้านบาท
บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 299 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 299 ล้าหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ปัจจุบันมีทุนชำระแล้ว 224 ล้านบาท หลังระดมทุนครั้งนี้จะมีทุนชำระแล้ว 299 ล้านบาท
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2550 คือกลุ่มนางสาวรุ่งรัตน์ ศิริรัตนาพานิชย์ ถือหุ้น 55.65% หลัง IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 41.69% กลุ่มนายวิสิทธิ์ กิตติวรรธนกุล ถือหุ้น 29.35% หลัง IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 21.99%
กลุ่มนายจินกุ้ย แซ่หลิน ถือหุ้น 15% หลัง IPO จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 11.24%
ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในแต่ละปี ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40% ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ