ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าร่วง 2.02% อ่อนกว่าภูมิภาค เหตุรับผลจากวิตกเศรษฐกิจ-การเมือง

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 816.77 จุด ลดลง 16.88 จุด(-2.02%) มูลค่าการซื้อขาย 10,543.65 ล้านบาท             
          การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยอยู่ในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 828.78 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 815.08 จุด
          นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะปรับฐานเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากรับผลจากปัจจัยภายในประเทศทั้งในเรื่องของความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย และประเด็นทางการเมือง
          ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยนั้น ได้มองถึงประสิทธิภาพการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนอาจจะลดลงได้ อันเนื่องมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนมาในรูปของเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดธนาคารกรุงเทพ(BBL)ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอาจจะด้วยเหตุวิตกเงินเฟ้อ ทำให้เป็นผลเชิงลบในเชิงพื้นฐาน 
          นอกจากนี้ แรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นแรงกดดันต่อตลาดฯ ถ้าเมื่อไรต่างชาติหยุดขายก็อาจจะทำให้มีการดีดกลับขึ้นได้ โดยให้กรอบการแกว่งใน 1-2 วันนี้ที่ 810-830 จุด 
          สำหรับการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ควรจะติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดในแถบยุโรป พร้อมให้แนวรับ 815 จุด แนวต้าน 828 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่             
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 1,622.31 ล้านบาท ปิดที่ 326.00 บาท ลดลง 10.00 บาท            
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,394.12 ล้านบาท ปิดที่ 180.00 บาท ลดลง  7.00 บาท            
          SCB   มูลค่าการซื้อขาย   629.70 ล้านบาท ปิดที่  89.50 บาท ลดลง  0.50 บาท             
          TOP   มูลค่าการซื้อขาย   623.17 ล้านบาท ปิดที่  60.50 บาท ลดลง  3.50 บาท           
          KBANK มูลค่าการซื้อขาย   622.87 ล้านบาท ปิดที่  82.50 บาท ลดลง  2.50 บาท