ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 2.81%แรงกว่าภูมิภาค,คาดต่างชาติขายต่อหลังไม่เชื่อมั่นการเมือง

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 810.22 จุด ลดลง 23.43 จุด(-2.81%) มูลค่าการซื้อขาย 21,554.79 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 828.78 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 809.70 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 50 หลักทรัพย์ ลดลง 341 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 67 หลักทรัพย์
          นายปรเมศร์ ทองบัว ผู้อำนวยการสำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ร่วงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะแกว่งตัวในกรอบแคบ ทั้งบวก-ลบ คาดว่าจะเป็นการรับแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติหลังจากที่ไม่ค่อยจะมีความเชื่อมั่นในเรื่องของการเมืองไทย อีกทั้งยังมีปัจจัยลบในช่วงท้ายตลาดจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้เลื่อนการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อทำให้มีการคาดกันว่าตัวเลขเงินเฟ้อน่าจะออกมาสูง
          ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้ถูกขายออกมาหนักในวันนี้ ภายหลังจากที่ธนาคารกรุงเทพ(BBL)ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจุดนี้น่าจะทำให้ Demand ลดลง 
          แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(3 มิ.ย.)นายปรเมศร์ กล่าวว่า คงจะต้องรอดูความเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นหลักว่าจะมีอะไรคืบหน้าบ้างหรือเปล่า ซึ่งภาพของตลาดโดยรวมในช่วงนี้น่าจะลดลง โดยมองระดับ 800 จุดน่าจะรับอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงจะต้องมองวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมด้วย พร้อมให้กรอบแกว่งสำหรับครึ่งหลังปีนี้(2551)ไว้ที่ 800-900 จุด 
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่             
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 2,648.25 ล้านบาท ปิดที่ 322.00 บาท ลดลง 14.00 บาท            
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,102.20 ล้านบาท ปิดที่ 180.00 บาท ลดลง  7.00 บาท 
          KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,335.75 ล้านบาท ปิดที่  81.00 บาท ลดลง  4.00 บาท           
          SCB   มูลค่าการซื้อขาย 1,074.02 ล้านบาท ปิดที่  90.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง             
          TOP   มูลค่าการซื้อขาย 1,050.18 ล้านบาท ปิดที่  59.50 บาท ลดลง  4.50 บาท