นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมวคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทยว่า กระทรวงการคลังจะพยายามเร่งผลักดันมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี
มาตรการภาษีดังกล่าว ประกอบด้วย การเก็บภาษีของการลงทุนในตราสารหนี้ ที่พิจารณาไม่ต้องเก็บภาษี Capital Gain เช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์, มาตรการภาษีเพื่อรองรับและให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับ Venture Capital ที่ลงทุนในธุรกิจเอสเอ็มอี และมาตรการเสริมสร้างการซื้อขายตราสารหนี้ โดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งกระทรวงการคลังมีแผนจะออกพันธบัตร อายุ 30 ปี เพื่อสนองความต้องการของนักลงทุนระยะยาว และอาจจะมีการออกพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษด้วย และ มาตรการทางภาษีที่จะสนับสนุนการควบรวมกิจการ เป้นต้น
รวมทั้งอาจมีการทบทวนให้เก็บภาษีบริษัทจดทะเบียน จากที่ปัจจุบันให้สิทธิประโยชน์สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai 25% และ SET 30% แบบไม่มีกำหนดระยะเวลา
"มาตรการทางภาษีจะพยายามผลักดันให้เสร็จภายใน 1 ปี" รมว.คลัง กล่าว
ในส่วนของการแปรรูปตลาดทุน คงจะได้มีการลงรายละเอียดกันในคราวหน้า โดยอาจจะใช้โครงสร้างของตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นฮ่องกงมาเป็น benchmark และสร้างมาตรฐานตลาดทุนไทยให้ใกล้เคียงตลาดในภูมิภาค เพื่อสร้างความสนใจในการลงทุน
รวมถึงการเร่งเพิ่มจำนวนนักลงทุนสถาบันเพิ่มมากขึ้น โดยการเร่งก่อตั้งกองทุนบำเน็จบำนาญแห่งชาติ และยังเป็นการส่งเสริมการออมแก่ข้่าราชการบำนาญด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--