นายนพพงษ์ อุรัจนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ. วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค(WIN) กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)จำนวน 122.58 ล้านหุ้น ว่า ทางกองทุนหรือทางนักลงทุนที่แสดงความสนใจจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากสถานการณ์การเมืองไม่นิ่ง และตลาดหลักทรัพย์เกิดภาวะความผันผวน ทำให้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวขเวลาในการพิจารณาทบทวนก่อน เพราะกังวลกับประเด็นที่เกิดขึ้นในขณะนี้
"เราอยากให้รู้ผลภายในพรุ่งนี้เลย เพราะใช้เวลาพูดคุยกับนักลงทุนมาพอสมควรแล้วก็น่าจะสรุปได้แล้ว แต่พอดีมาเจอจังหวะม็อบ พอม็อบเสร็จ หุ้นในตลาดราคาตก นักลงทุนต่างชาติขาย เค้าก็เลยถอยออกมาทบทวนกันใหม่"นายนพพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หวังว่ากลุ่มดังกล่าวจะใช้เวลาพิจารณาทบทวนไม่มากนัก เพราะบริษัทเองก็พยายามที่จะหาข้อสรุปให้เร็วที่สุด จากที่วางแผนไว้ว่าจะสรุปให้ได้ภายในเดือนพ.ค.51
ทั้งนี้ กลุ่มที่สนใจเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ WIN มีทั้งกองทุนและนักลงทุนในและต่างประเทศประมาณ 6-7 ราย ส่วนจะแบ่งขายหรือไม่ต้องดูราคาที่แต่ละคนเสนอมามีเงื่อนไขอย่างไร อาจจะขายเป็นล็อตๆ หรือขายไปคราวเดียวเลย ก็ต้องดูเงื่อนไขและเม็ดเงินที่จะได้ แต่ราคาคงขายไม่ต่ำกว่า 1.14 บาท/หุ้น เพราะเป็นราคาที่ทางคณะกรรมการอนุมัติไว้แล้ว
"เราอยากสรุปให้ได้เร็วที่สุดเพราะมีแผนการใช้เงินอยู่โดยจะเอามาซื้ออุปกรณ์ เป็น working cap และชำระหนี้บางส่วน ตอนนี้รอเงินจากการเพิ่มทุนว่าจะเข้ามาเมื่อไร แต่ในขณะเดียวกันธุรกิจเราก็ต้องดำเนินการตามแผน เพียงแต่ถ้าเงินไม่เข้าก็อาจจะตะกุกตะกักบ้าง"นายนพพงษ์ กล่าว
หากยังไม่สามารถสรุปแผนขายหุ้นเพิ่มทุนได้ บริษัทก็คงต้องประเมินแผนลงทุนกันอีกครั้ง โดยจะพิจารณาที่ประเด็นความเร่งด่วนของโครงการต่าง ๆ หากได้เงินเข้ามาไม่ทันก็อาจจะต้องจัดลำดับความสำคัญใหม่ โดยเลือกลงทุนที่ให้ผลตอบแทนก่อน
*ปี 51 คาดรายได้ 450-500 ลบ.โต 4-5 เท่าตัวจากปีก่อนที่ 100 ลบ.
นายนพพงษ์ กล่าวว่า บริษัทประเมินว่าในปีนี้จะทำรายได้ 450-500 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 100 ล้านบาท หรือเติบโตราว 4-5 เท่าตัว เนื่องจากการลงทุนที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 49 กำลังให้ดอกผลที่ดีในปีนี้ โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งทางรถไฟ และยังมีหวังที่จะสามารถพลิกมามีกำไรได้เป็นปีแรก
ปัจจุบันธุรกิจขนส่ง ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และธุรกิจให้เช่าพื้นที่โรงงาน มีลูกค้าในนิคมฯมาบตาพุดส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายใหญ่ เช่น กลุ่ม ปตท.(PTT) กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนจำนวนมาก ในส่วนของลูกค้าไม่น่ามีปัญหาถ้าใช้แล้วบริการดีลูกค้าก็ใช้กับเราตลอดและก็มีวอลุ่มให้เรื่อยๆ
นายนพพงษ์ กล่าวว่า ไตรมาส 1/51 ผลประกอบการดีขึ้น คือขาดทุนลดลง เป็นสิ่งที่บอกว่าที่เราดำเนินการมาในช่วงไตรมาส 4/50 ก็ได้เห็นผลในไตรมาส 1/51 แล้ว ส่วนไตรมาส 2/51 ก็น่าจะเป็นไปในทางเดียวกัน เพราะคาดไว้แล้วว่าธุรกิจการขนส่งทางรถไฟจะมาเห็นผลในปีนี้ ดังนั้นผลประกอบการปี 51 ดีกว่าปี 50 แน่นอน หากขาดทุนก็จะขาดทุนลดลงหรือพลิกกลับเป็นมีกำไรเลย
อนึ่ง WIN ไตรมาส 1/51 ขาดทุนสุทธิ 26.31 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 37.58 ล้านบาท
ส่วนในปีนี้จะมีกำไรได้หรือไม่ คงจะต้องประเมินอีกครั้งหลังจากที่เห็นผลประกอบการในไตรมาส 2/51 ก่อน เพราะวอลุ่มของบริการขนส่งทางรถไฟจะ peak จริงๆ ประมาณไตรมาส 3/51-ไตรมาส 4/51 และทุกอย่างถ้าเงินเข้ามาตามแผนขยายธุรกิจได้เพิ่มขึ้นก็จะดี
"ปีนี้ประมาณการไว้ว่าเราน่าจะมีกำไรเป็นปีแรกหลังจากที่ปี 49-50 ขาดทุนซึ่งเป็นการขาดทุนเนื่องจากดำเนินธุรกิจใหม่ แต่พอปี 51 ทุกอย่างเริ่มดำเนินการก็จะมีรายได้และกำไรที่ดีขึ้น เหมือนกับที่ประมาณการรายได้ปีนี้ที่ 500 ล้านบาท ก็น่าจะตอบโจทย์อะไรได้แล้ว เป็นการตอบคำถามนักลงทุนว่า 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทประสบเรื่องภาวะการเมือง และเป็นช่วงจังหวะที่ลงทุนธุรกิจใหม่เหมือนกับเราได้เก็บผลแล้วตอนนี้ สิ่งที่ลงทุนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วตอนนี้ออกดอกออกผลแล้ว"นายนพพงษ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายจักร จามิกรณ์ เข้ามาเป็น CEO มาจากสายการเดินเรือ และอยู่ในธุรกิจนี้มาก็มองเห็นศักยภาพต่างๆ ผลจากการปรับการบริหารการทำงานทุกอย่างก็เริ่มเห็นผลในไตรมาส 1/51 ที่ขาดทุนลดลง และ ไตรมาส 4/50 ก็เป็นแนวทางที่ผู้บริหารวางไว้และเดินถูกทางแล้ว เพราะฉะนั้นไตรมาส 2/51 ก็น่าจะเห็นผลชัดเจน และไตรมาส 3-4 น่าจะชัดเจนเพราะเป็นช่วง peak
นายนพพงษ์ ยังกล่าวว่า ราคาหุ้น WIN ในสัปดาห์ที่ผ่านมากระทบจากภาวะตลาดโดยรวมที่เกิดจากนักลงทุนไม่มั่นใจในเรื่องการเมือง
ราคาหุ้น WIN ณ เวลา 11.36 น.อยู่ที่ 0.97 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--