PTTAR จะเลิกผลิตเบนซินปีหน้า-เพิ่มการผลิตอะโรเมติกส์เท่าตัวเป็นตามแผน

          บมจ.ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR)จะยกเลิกการผลิตน้ำมันเบนซินในต้นปีหน้า หลังแยกการบริหารการกลั่นน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียม (SPRC) ในเดือนก.พ.52 ขณะเดียวกัน โครงการเพิ่มกำลังการผลิตอะโรเมติกส์เท่าตัวเป็น 2.2 แสนตัน/วัน จาก 1.1 แสนตัน/วัน เป็นไปตามแผนที่จะเริ่มในเดือน ส.ค. 51 ทำให้รายได้ในปีหน้าเพิ่มมากขึ้น แต่กำไรยังประเมินได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลก  
          นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่  PTTAR กล่าวว่า แนวโน้มความต้องการน้ำมันเบนซินลดลง แต่พลังงานทดแทน เช่น เอทานอล  รวมไปถึงการใช้ก๊าซ NGV จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น  ขณะเดียวกันบริษัทจะนำส่วนผสมในเบนซินไปใช้ในการผลิตอะโรเมติกส์แทนที่จะให้ผลตอบแทนดีกว่า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของการผลิตอะโรเมติกส์ 
          "เราจะเลิกผลิตเบนซินต้นปีหน้า ดูแล้ว เอทานอลจะมีบทบาทมากขึ้น และระยะหลังพวกรถขนส่งมวลชนก็ใช้ NGV น้ำมันเบนซินก็ล้นตลาดอยู่แล้ว เอาไปทำอะโรเมติกส์จะให้ผลตอบแทนได้มากกว่า" นายชายน้อย กล่าว 
          ปัจจุบันบริษัทผลิตน้ำมันเบนซินในสัดส่วนประมาณ  20%ของกำลังการกลั่น 1.45 แสนบาร์เรล/วัน 
          ขณะเดียวกัน ก็จะมีคอนเดทเสท เรซิดิว จากโครงการผลิตสารอะโรเมติกส์ โรง 2 ซึ่งจะนำมาผลิตน้ำมันดีเซลได้เพิ่มขึ้นอีก 3.5-4 หมื่นบาร์เรล/วัน ในปีหน้า ขณะที่ความต้องการน้ำมันดีเซลเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% แต่ปีนี้คาดว่าจะโต 3-4% 
          ส่วนราคาพาราไซลีน ขณะนี้ราคาอยู่ที่ 1,400 เหรียญ/ตัน และ ราคาเบนซีน ปรับขึ้นไปที่ 1,100 เหรียญ/ตัน โดยเฉลี่ยได้ปรับตัวขึ้นไปกว่า 100 เหรียญ/ตัน  แต่ราควัตถุดิบหรือแนฟทา ก็ปรับขึ้นตามด้วยขึ้นมาถึงประมาณ 900 เหรียญ/ตัน ทำให้แนวโน้มมาร์จิ้นในไตรมาส 2/51 แคบลงจากไตรมาส 1/51
          ขณะที่ ในส่วนธุรกิจโรงกลั่น ยังต้องประเมินอีกครั้ง หากราคาน้ำมันในครึ่งปีหลังไม่เพิ่มสูงมากอย่างที่มีหลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ก็จะคาดว่าทั้งปีบริษัทจะมีค่าการกลั่นเฉลี่ยที่ 6-7 เหรียญ/บาร์เรล โดยในไตรมาสแรกทีผ่านมามีค่าการกลั่นที่ระดับ 5-6 เหรียญ/บาร์เรล