ปตท.จี้รัฐปล่อยราคาพลังงานตามกลไกตลาด ไม่เช่นนั้นจะเป็นระเบิดลูกใหญ่

          นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์  กรรมการผู้จัดการใหญ่  บมจ.ปตท (PTT) กล่าวว่ รัฐบาลควรจะปล่อยให้ราคาพลังงานเป็นไปตามกลไกตลาด ไม่อย่างนั้นจะเป็นปัญหาในระยะยาว ซึ่งจะแก้ได้ยาก 
          โดยเฉพาะ ปัญหาก๊าซ LPG ที่ปัจจุบัน ปตท.แบกรับภาระส่วนต่างระหว่างในประเทศที่อยู่ประมาณ 300 เหรียญ/ตัน ขณะที่ราคานำเช้าอยู่ที่ 900 เหรียญ/ตัน  เนื่องจาก ก๊าซ LPG หรือ ก๊าซหุงต้มเป็นพลังงานที่ราคาถูกและเข้าถึงได้ง่ายกว่า ทำให้มีการใช้ LPG ผิดประเภทโดยเฉพาะรถยนต์ได้หันมาใช้ LPG สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ว่าในปีหน้า ปตท.อาจะต้องนำเข้า LPG ถึง 5 แสน - 1 ล้านตันจากปีนี้ที่นำเข้า 2 แสนตัน 
          "ตอนนี้เราหลังชนเหวแล้ว ถ้าไม่ปล่อยราคา LPG ให้เป็นไปตามกลไกตลาด ก็ยิ่งสนับสนุนให้ผู้ใช้มาใช้ LPG เพิ่มขึ้น เราควรจะต้องให้ประชาชนรับความเป็นจริง และมีการปรับตัว และตอนนี้เกิดปัญหาต่อเนื่องที่มีการลักลอบนำ LPG ออกไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เขมร พม่า รวมถึงจีนตอนใต้ ซึ่งปตท.ไม่สามารถควบคุมดูแลได้ทั่วถึง"นายประเสริฐ กล่าวในงานสัมมนา"วิกฤตพลังงาน: นโยบาย ยุทธศาสตร์ และทางรอดของ SMEs" 
           ส่วนก๊าซ NGV ปัจจุบัน ราคาขายอยู่ที่ 8.50 บาท/กก. ขณะที่ ราคาตลาดโลกสูงกว่า 10 บาท/กก.  ทำให้เกิดความกังวลว่าจะกลายเป็นปัญหาใหม่ ดังนั้นควรจะกำหนดราคาที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ตามพ.ร.บ.พลังงานที่กำหนดให้ราคาขายก๊าซ NGV ต้องถูกกว่าราคน้ำม้นดีเซล 50% 
          "หากภาครัฐยังไม่แก้ปัญหาเรื่องนี้ก็จะก่อให้เกิดวิกฤติด้านพลังงานที่เกิดจากการอุดหนุนของภาครัฐเอง และก็จะกลายเป็นปัญหาลูกโซ่"นายประเสริฐ กล่าว  
          ทั้งนี้ ในปีนี้ปตท.อุดหนุนด้านพลังงานทุกชนิดประมาณ 3 หมื่นล้านบาท  
          ส่วนราคาน้ำมันในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ค่าการตลาดของบริษัท ติดลบ 0.32 บาท/ลิตร ซึ่งความเป็นจริงควรจะสูงกว่า 1 บาท/ลิตร ทำให้ผู้ประกอบการน้ำมันยังต้องแบกรับภาระราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นรวมถึงค่าการกลั่น แม้ว่ารัฐบาลเริ่มปล่อยให้ราคาน้ำมันขายปลีกเป็นไปตามกลไกตลาด แต่เมื่อประชาชนเดือดร้อน รัฐก็อุดหนุนบางส่วน ขณะที่ประเทศอื่นจะหลีกเลี่ยงการอุดหนุน ซึ่งก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาในระยะยาวเช่นกัน