ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกปัญหาสินเชื่อ ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 100.97 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 4, 2008 06:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดในแดนลบติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากมีข่าวว่าเลห์แมน บราเธอร์ส วางแผนที่จะระดมทุนเพิ่มอีก ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์สินเชื่ออาจส่งผลให้ระบบการเงินของสหรัฐย่ำแย่ลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 100.97 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 12,402.85 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 8.02 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 1,377.65 จุด และดัชนี Nasdaq รูดลง 11.05 จุด หรือ 0.44 % ปิดที่ 2,480.48 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.3 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.16 พันล้านหุ้น
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานเมื่อวานนี้ว่า วาณิชธนกิจ เลห์แมน บราเธอร์ส อาจต้องระดมเงินทุนใหม่อีก 3-4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของงบดุล โดยการระดมทุนครั้งใหม่อาจจะดำเนินการผ่านทางการขายหุ้นสามัญ
การระดมทุนครั้งใหม่นี้สะท้อนให้เห็นว่า ตัวเลขขาดทุนในไตรมาสที่ 2 ของเลห์แมน บราเธอร์ อาจเป็นวงเงินสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 300 ล้านดอลลาร์ โดยเมื่อปีที่แล้ว เลห์แมน บราเธอร์ส ระดมทุนไปแล้วถึง 6 พันล้านดอลลาร์ ด้วยการออกหุ้นบุริมสิทธิ์
นายจิม เฮอร์ริค นักวิเคราะห์จากบริษัท แบรด แอนด์ โค กล่าวว่า "ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นเลห์แมน บราเธอร์สร่วงลงอย่างหนักและเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงด้วย นอกจากนี้ มีข่าวลือว่านอกเหนือจากการออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุนแล้ว เลห์แมน บราเธอร์สอาจขอกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ด้วย"
"ข่าวการระดมทุนของเลห์แมน บราเธอร์ส ถาโถมเข้ากดดันตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากที่ตลาดได้รับปัจจัยลบไปก่อนหน้านี้แล้วจากข่าวที่ว่าสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับเครดิตของวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ เมอร์ริล ลินช์ เลห์แมน บราเธอร์ส และมอร์แกน สแตนลีย์" นายเฮอร์ริคกล่าว
ในช่วงเช้านั้น ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นชั่วขณะหนึ่งหลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวในที่ประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมในเมืองบาเซโลนา ประเทศสเปน ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เนื่องจากเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหลายครั้งและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
แต่ต่อมาไม่นาน ดาวโจนส์เริ่มถอยลงมาอยู่ในแดนลบ เมื่อนายเบอร์นันเก้ยอมรับว่า เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความยากลำบากจากราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้อีกระยะหนึ่ง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.1%
หุ้นเลห์แมน บราเธอร์สร่วงลง 9.5% ส่วนหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ดีดขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 17.58 ดอลลาร์ แม้นายริค วาโกเนอร์ ประธานจีเอ็มกล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะระงับการผลิตที่โรงงานในอเมริกาเหนือ เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสุงขึ้นทำให้ผู้บริโภคประหยัดในการจับจ่ายใช้สอย
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 6.68 ดอลลาร์ แม้บริษัทเปิดเผยยอดขายเดือนพ.ค.ลดลง 16% จากปีที่แล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ