ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ หลังดาวโจนส์ดิ่ง-เบอร์นันเก้ส่งสัญญาณไม่ลดดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 4, 2008 10:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดเอเชีย หลังจากนาย เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในเอเชียมียอดขายแซงหน้ากลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐ 
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดเช้าพุ่งขึ้น 175.23 จุด หรือ 1.2% แตะที่ระดับ 14,384.40 จุด หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 14,388.04 จุด
ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดลบ 48.04 จุด หรือ 0.2% แตะ 24,327.72 จุด และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นร่วงลง 49.32 จุด หรือ 1.44% แตะ 3,387.08 จุดในช่วงเช้า ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ขยับลง 2.05 จุด หรือ 0.1% แตะระดับ 1,817.34 จุดเช้านี้เช่นกัน
นายฮิโรชิ นิชิ นักวิเคราะห์จากบริษัท นิคโค คอร์เดียล ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า สกุลเงินเยนที่อ่อนตัวลงช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มส่งออกอย่างคับคั่ง โดยหุ้นโซนี่และหุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ทะยานขึ้น ส่วนหุ้นฮอนด้า และหุ้นเกีย มอเตอร์ ทะยานขึ้น หลังจากมีข่าวว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐของบริษัททั้งสองแห่งพุ่งขึ้นแซงหน้ายอดขายรถยนต์ค่ายสหรัฐ
บริษัท ออโต้ดาต้า ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐช่วงเดือนพ.ค. 2551 ร่วงลง 10.7% จากระดับปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 1,396,965 คัน นับเป็นสถิติที่ร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 เนื่องจากธุรกิจที่ชะลอตัวลงของบริษัทรถยักษ์ใหญ่ 3 รายของสหรัฐ ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยอดขายของฮอนด้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 5.1% สู่ระดับ 26,900 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน
ส่วนตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 100.97 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 12,402.85 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เลห์แมน บราเธอร์ส อาจต้องระดมเงินทุนใหม่อีก 3-4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ตัวเลขขาดทุนในไตรมาสที่ 2 ของเลห์แมน บราเธอร์ อาจเป็นวงเงินสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 300 ล้านดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ