ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าอ่อนลง มีโอกาสหลุด 800 จุด เหตุต่างชาติขายต่อ

          นายพงษ์พันธ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ายังอยู่ในภาวะที่อ่อนตัวลง โดยมองว่ายังมีโอกาสที่จะไหลลงต่ำกว่าระดับ 800 จุด เนื่องจากมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องกดดดันอยู่ และตลาดฯยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของการเมือง ประกอบกับเรื่องที่เงินบาทอ่อนลงทำให้การถือหุ้นของต่างชาติเสียเปรียบถ้าแลกเป็นเงินดอลลาร์ฯ แต่ก็คิดว่าเรื่องนี้คงจะน้อยลงแล้ว 
          นอกจากนี้ ความนิยมของหุ้น Commodity อาจจะน้อยลง เพราะประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ได้ออกมาบอกว่าจะพยายามต่อสู้กับเรื่องของเงินเฟ้อแล้ว เพราะเงินเฟ้อเกิดมาจากต้นทุน ซึ่งถ้าประธานเฟดต้องการที่จะเลือกเสถียรภาพต่อไป ก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมอาจจะยังไม่โต โดยการทำให้เงินเฟ้อลดลง ทำให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็มีโอกาสเหมือนกัน สังเกตุได้ว่าเงินดอลลาร์ฯก็ได้แข็งค่าขึ้นไป ขณะที่ Commodity ก็เริ่มทยอยลง 
          ที่นี้ผลคือว่า การเทรด Commodity ในตลาดบ้านเรามีถึง 30% อย่าง BANPU, PTT, PTTEP เป็นต้น คือหุ้นพวกนี้ก็ดี แต่ถ้าแนวโน้มดังกล่าวมากระทบก็จะมีผลต่อตลาดฯบ้าง เพราะฉะนั้นตลาดฯก็จะอยู่ในลักษณะของการอ่อนตัวลงไป 
          "หุ้นบลูชิพก็ถูกปัจจัย 2 อย่างมากระทบ ก็คือเรื่องของแรงขายจากต่างชาติ และเรื่องของ Commodity ส่วนหนึ่ง โดยมองว่าขณะนี้ดัชนีฯยังสะท้อนความเสี่ยงของตลาดฯยังไม่พอ ก็ควรจะรอหน่อยหากต้องการจะช้อนซื้อหุ้นดี ๆ ส่วนหุ้นขนาดเล็ก-ขนาดกลางที่มีโอกาสได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะกำไรดี และเกี่ยวข้องกับค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงพวกนี้จะได้รับผลดี อย่างเช่น หุ้น TTA, HANA, TVO เป็นต้น"นายพงษ์พันธ์ กล่าว 
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(4 มิ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,390.48 จุด ลดลง 12.37 จุด(-0.10%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,377.20 จุด ลดลง 0.45 จุด(-0.03%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,503.14 จุด เพิ่มขึ้น 22.66 จุด 
(+0.91%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,094.73 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 122.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.01
ดอลลาร์หรือ 1.62%
          - "พูนภิรมย์" เปิดช่องรื้อภาษีอี 85 ได้ในอนาคต หากเป็นแรงจูงใจให้เอกชนลงทุน เบื้องต้นต้องเคารพมติ ครม.ก่อน สั่งตรึงราคาเอ็นจีวี 8.50 บาทต่อกก.ไปถึงสิ้นปี ด้าน "สุวิทย์" รับลูกสั่งฟื้นนโยบายส่งเสริมการลงทุนโรงงานเอทานอล รองรับรถยนต์ใช้น้ำมันอี 85 ขณะที่ค่ายฟอร์ดระบุ อัตราภาษียังไม่จูงใจ
          - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดฮวบลง หลังจากประธานเฟดแสดงท่าทีไม่อยากให้ดอลลาร์อ่อนเพราะทำอัตราเงินเฟ้อยิ่งแย่ ด้านนักวิเคราะห์มองแรงเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้ากำลังผวา เพราะ 3 เสาหลักค้ำราคาให้แพงลิ่วต่างอยู่ในอาการคลอนแคลน โดยนอกจากดอลลาร์จะขยับแข็งขึ้น อุปสงค์ในเอเชียก็ทำท่าลดต่ำชัดเจน แถมหน่วยงานกำกับก็เข้าสอบการเก็งกำไรทะมัดทะแมงขึ้นส่วนเชลล์ขึ้นราคาขายปลีกเบนซินอีกลิตรละ 50 สตางค์สวนตลาดโลก ขณะที่ กมธ.พลังงาน จี้ปตท.แจงวิกฤติน้ำมันแพง ราคาสูงเกินจริง “ประเสริฐ" ลั่น ทุกอย่างวิ่งตามราคาตลาดโลก
          - สำนักงานสลากฯ อยู่ระหว่างหารือรูปแบบการจำหน่ายสลากแบบเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดินด้วยเครื่องอัตโนมัติ หรือหวยออนไลน์ ร่วมกับ บริษัทล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทติดตั้งเครื่องขายสลากออนไลน์ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อรายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบต่อไป
          - "พาณิชย์"ให้เหล็กเส้น-เหล็กแผ่น ปรับราคาขึ้นแล้ว 7 บาท/กิโลกรัม ตั้งแต่ พ.ค.จ่อปรับขึ้นซ้ำอีกเดือน มิ.ย.
          - ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวจะให้เวลารัฐบาล 7 วัน เพื่อหาทางช่วยลดผลกระทบจากน้ำมัน หากยังไม่ได้ความชัดเจนจะหยุดขนส่งสินค้าในวันที่ 11 มิ.ย. จากนั้นจะระดมคาราวานรถบรรทุก 2 หมื่นคัน มาประท้วงในกรุงเทพฯ วันที่ 17 มิ.ย.
          - ธปท.ร่วม 4 หน่วยงานภาคเอกชน ถกสถานการณ์-ปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ เผยภาคเอกชนระบุห่วงเงินเฟ้อพุ่ง ด้านธปท.แนะให้ภาคเอกชนปรับตัวรับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นอาจกดดันให้ต้นทุนการผลิตสูง และเร่งการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป