ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงถ้วนหน้าหลังจากราคาน้ำมันพุ่ง-อัตราว่างงานสหรัฐพุ่ง

          ตลาดหุ้นเอเชียพากันตกลงถ้วนหน้าในวันนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงภายหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ใกล้กับ 140 ดอลลาร์ และข้อมูลการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐบ่งชี้ว่า อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งสูงขึ้นมาก
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ตลาดหุ้นได้รับปัจจัยลบหลายปัจจัย ส่งผลให้เกิดความกังวลขึ้นมาอีกครั้งว่า เศรษฐกิจสหรัฐใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
          วัง กัม ดัน นักวิเคราะห์ของบล.ซัมซุง กล่าวว่า ราคาน้ำมันเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญที่สุดในตลาดขณะนี้ และยังมีอิทธิพลเหนือปัจจัยบวกอื่นๆ โดยความเชื่อมั่นในตลาดขณะนี้ยังไม่ดีขึ้นจนกว่าต้นทุนด้านเชื้อเพลิงจะมีเสถียรภาพ
          เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 394.64 จุด หรือ 3.1% แตะ 12,209.81 จุด นับเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. 2550
          ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ทะยานแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 139.12 ดอลลาร์ หลังจากที่นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งมาอยู่ที่ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในวันที่ 4 ก.ค.นี้
          ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลง 2% เช้าวันนี้ แตะ 1,795.93 จุด ส่วนดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวตกลง 2.3% แตะ 14,163.63 จุด
          โยชิฮิโกะ ชิมามิเนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยได-อิชิ ไลฟ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแรงขายหลังจากที่ราคาน้ำมันและเงินเยนปรับตัวสูงขึ้น  หุ้นกลุ่มส่งออกอย่างโซนี่ คอร์ป ตกลงเพราะมีความหวังว่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์จะส่งผลกระทบต่อสัดส่วนกำไร
          หุ้นโซนี่ ตกลง 3.1% หุ้นโตดยต้า มอเตอร์ ร่วงลง 2.3% และหุ้นมัตสึชิตะ อิเล็กทริก อินดัสเทรียล ปรับตัวลง 2.2%
          ความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงแรงงานระบุว่า อัตราว่างงานของสหรัฐพุ่งแตะระดับ 5.5% ในเดือนพ.ค. จากระดับเดือนเม.ย.ที่ 5.0% ซึ่งถือเป็นสถิติที่ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบเดือนนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2539