โบรกฯเทียบโทรคมฯ 2 รายหลักแนะ"ซื้อ"ADVANCมี upside/DTAC ใกล้เต็มมูลค่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 10, 2008 10:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกเกอร์ มองหุ้นกลุ่มสื่อสารโดดเด่นในช่วงนี้ ลุ้นพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และ กำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม ที่จะเข้าครม.ในวันนี้ หากผ่านฉลุยก็เชื่อว่าจะจุดพลุบริการ 3G ที่จะทำให้กลุ่มโทรคมนาคมกลับมาคึกคัก
สำหรับหุ้นหลักทั้ง 2 ตัวอย่างบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส(ADVANC)และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) โบรกฯ ส่วนใหญ่ยังแนะนำ"ซื้อ" ADVANC เพราะมองว่ายังมี upside สูงและราคาช่วงนี้ปรับตัวลงไปมากแล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 6-7% เทียบกับ DTAC ที่ราคาใกล้เต็มมูลค่า แต่ก็มีบางโบรกฯเห็นว่าช่วงนี้ยังไม่ควรลงทุนทั้งสองตัวเลย เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการรับผลการชะลอตัวเศรษฐกิจ
ส่วนการออกโปรโมรชั่นใหม่ลดราคาเหลือ 0.75 บาท/นาทีของทั้งค่าย ADVANC และ DTAC บางโบรกฯมองว่าอาจเป็นเริ่มต้นสงครามราคารอบใหม่ จากปัจจัยที่การใช้จ่ายชะลอตัวจึงจำเป็นต้องใช้แคมเปญตลาดเข้ามาดันยอดการใช้งาน แต่หลายโบรกฯยังเชื่อว่าไม่ถึงขั้นนั้น
วานนี้ ราคา ADVANC ปิดที่ 91.00 บาท ลบ 2.00 บาท ซึ่งลงไปต่ำสุดที่ 90.50 บาท ต่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ส่วน DTAC ปิดที่ 49.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
ADVANC DTAC
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.เคทีบี ซื้อ 106 ถือระยะยาว 54
บล.เอเซียพลัส ซื้อ 110 เต็มมูลค่า 54
บล.ไซรัส ซื้อ 117 เต็มมูลค่า 52
บล.บัวหลวง ไม่ลงทุน 120 ไม่ลงทุน 53
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง มองว่า การที่ราคาหุ้น ADVANC ปรับตัวลงในระยะนี้มาจากผลคดีพีซีโฟนต้องจ่ายเงินให้กับ DTAC แม้บริษัทจะตั้งสำรองไปแล้วแต่อาจจะน้อยกว่าที่ต้องจ่ายจริง แต่เห็นว่าในเชิงการเทรดหุ้นข่าวร้ายเข้ามาต่อเนื่อง และ เรื่องการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่จะชะลอตัวเข้ามาในขณะนี้
"หุ้นตัวนี้ถือเป็น consumption play ตัวหนึ่ง กำลังมองว่า 3-6 เดือนข้างหน้าจะชะลอ โดยเห็นจากภาพรวมของเศรษฐกิจลดลง จีดีพี ปรับตัวลดลง local consumption และ local investment ถูก downgrade" นายชัยพร กล่าว
ทั้งนี้ ขณะนี้เริ่มมี Price War รอบใหม่ที่ DTAC นำเสนอราคาใหม่ 0.75 บาท/นาที ขณะที่ทาง ADVANC ก็ยอมชน แต่ TRUE ไม่อยู่ในบทบาทที่แข่งด้วยได้ ซึ่งปกติใช้ระยะเวลา 3-6 เดือนในการทำโปรโมชั่น
อย่างไรก็ตาม มองแล้วในแง่การลงทุน คิดว่าควรรอสักระยะหนึ่ง ไม่ควรเสี่ยง เพราะราคาหุ้นอาจจะอ่อนตัวกว่านี้ หรือ ตลาดปรับตัวขึ้นแต่หุ้น ADVANC อาจจะไม่ขึ้น ฉะนั้น ถ้าหุ้นตัวใดมีความเสี่ยงไม่ว่าจะประเด็นอะไรก็ไม่ควรจะลงทุน
ขณะหุ้น DATC ราคาหุ้นเกือบเต็มมูลค่าแล้ว คิดว่าเป็นภาพของทั้งกลุ่มโทรคมนาคม ควรรอให้ตลาดซึมซับข่าวร้ายไปก่อน ทั้ง consumption ชะลอตัว และ Price war เพราะไม่อย่างนั้นซื้อไปราคาหุ้นก็ไม่นิ่ง ขณะที่มองว่าการประกอบธุรกิจ 3G ยังเป็นเรื่องในระยะยาว ที่คาดว่ากว่าจะรับรู้รายได้ก็คงเป็นปี 2553
"เราคงต้องสังเกตุ Performance เขา สมมติว่าข่าวร้ายออกมาต่อเนื่องแต่ราคาหุ้นเริ่มหยุดแล้ว ไม่ปรับตัวลง ก็คาดว่าราคหุ้นเริ่มนิ่ง ข่าวร้ายเริ่มหมดแล้ว ก็น่าจะเป็นจังหวะเหมาะเข้าไป แต่ถ้าข่าวร้ายเข้ามาราคาหุ้นก็ยังไหลลง ทำนิวโลว์ แสดงว่ายังไม่ใช่"นายชัยพร กล่าว
ส่วน น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส มองว่า กรณีที่ DTAC จะได้ทำ 3G บนคลื่นเดิมยังไม่มีความหมายในขณะนี้ เพราะยังอยู่ภายใต้ระบบจ่ายส่วนแบ่งรายได้สัญญาสัมปทาน ก็คงแค่ทดลองตลาดและให้ผู้ใช้เริ่มรู้จัก แต่ถ้าได้ใบอนุญาต 3G อยู่ภายใต้ใบอนุญาตใหม่ก็จะน่าสนใจ ซึ่งก็ต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่
ขณะที่การออกโปรโมชั่นราคาถูกในขณะนี้ ยังไม่น่าจะถึงขั้นเป็นสงครามราคา เพราะช่วงนี้เป็นช่วง low season ก็ต้องออกโปรโมชั่นที่ค่อนข้างแรงเพื่อกระตุ้นตลาด แต่เชื่อว่าผู้ให้บริการแต่ละรายจะไม่ขาดทุนจากโปรโมชั่น คงไม่เลวร้ายเหมือนสถานการณ์เหมือนในปี 2548-2549
ในปีนี้ DTAC จะดูมีกำไรดีกว่า เนื่องจากรับการลดภาษีนิติบุคคลอีก 5% จากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น และปีนี้ควบคุมการจ่ายค่า IC ให้รายอื่นน้อยลง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้ ถ้าเทียบกับ ADVANC โตได้จากฝึมือ จากการเพิ่มรายได้
"เราเชียร์ ADVANC เพราะว่าถ้าเทียบกับ DTAC เมื่อต้นปีราคาขึ้น กว่า 30% มาจาก 39 บาทเป็น 50 กว่าบาท ใกล้เต็มมูลค่า ขณะที่ ADVANC ต้นปีราคาอยู่ช่วง 93-95 และตอนนี้ก็ปรับตัวลง คือเป็นหุ้น laggard ราคาหุ้นจะนิ่งๆ ขึ้นช้ากว่าคนอื่น ทั้งที่พื้นฐานดี เหตุผลที่แนะนำเข้าซื้อ ADVANC เพราะราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐาน ผลประกอบการก็ดีกว่าด้วย"น.ส.จิตรา กล่าว
ขณะที่ นางสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผุ้จัดการบล.เคทีบี กล่าวว่า การทำ 3G บนโครงข่ายเดิมของ DTAC หวังเพียงด้านการตลาดมากกว่า โดยเป้าหมายอยู่ที่ผู้ใช้ GPRS จาก 16.6 ล้านราย(สิ้น Q1/51)มีโอกาสอัพเกรดมาใช้ 3G ประมาณ 2 ล้านราย ส่วน ADVANC ก็มีช่องสัญญาณจำกัด อาจจะมีจำนวนผู้ใช้น้อยกว่า DTAC แต่มุ่งหวังเรื่องการตลาดเหมือนก้น ทั้งสองรายไม่ได้คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนัก
การออกโปรโมชั่นใหม่ของทั้งสองราย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่นในไตรมาส 2-3 ก็ต้องกระตุ้นให้มีการใช้งานมากขึ้น มองเป็นเรื่องปกติของการแข่งขัน ไม่คิดว่าเป็นเรื่องของสงครามราคา เพราะว่าขณะนี้เศรษฐกิจไม่ดี ถ้าทำไปก็ตายทั้งคู่
แต่ถ้ามี พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ และให้ใบอนุญาต 3G ได้ก็จะทำให้กลุ่มโทรคมนาคมกลับมคึกคัก
ในแง่การลงทุน มองว่าแม้ว่า DTAC จะโตได้ดีกว่า แต่ราคาใกล้เต็มมูลค่า ถ้าราคาอ่อนตัวลงมากก็น่าเข้าลงทุน ขณะที่ ADVANC ยังน่าซื้อ ก่อนหน้านี้มีปัจจัยลบเข้ามาเรื่องคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ ทำให้ราคารับช่าวไป
ด้านนักวิเคราะห์จากบล.เอเซียพลัส มองว่า ช่วงนี้ทั้งสองค่ายก็ออกโปรโมชั่นตลาดมือถือ มองว่าไม่ใช่สงครามราคา และคิดว่าคงไม่ดั๊มพ์ราคา เพราะต่างก็มีต้นทุนการดำเนินงาน โดยเฉพาะ ค่า IC นาทีละ 1 บาท อยู่แล้ว แต่เพื่อต้องการกระตุ้นตลาด
อย่างไรก็ตาม หุ้น ADVANC น่าลงทุนมากกว่า เพราะยัง upside gain อยู่ประมาณ 21% จากราคาพื้นฐาน และยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปีละ 6-7% ส่วนหุ้น DTAC แม้จะเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี แต่ราคาขึ้นไปมากแล้ว upside แทบไม่มี และอัตราผลตอบแทนเพียงปีละ 2-3% เท่านั้น

แท็ก คมนาคม   ADVANC   ครม.   DTAC   ลุย   UPS  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ