(เพิ่มเติม) ฟิทช์ประกาศเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณาแก่อันดับเครดิตสนับสนุนของ BT

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 10, 2008 18:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณา (Rating Watch Evolving) แก่อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) ของธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT ที่อันดับ ‘4’ โดยรอความชัดเจนของการเพิ่มทุนในอนาคต และความเป็นไปได้ในการลดสัดส่วนการถือหุ้นภายในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินหรือ FIDF ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 42%
สถานะทางการเงินของ BT ในช่วงปีที่ผ่านมา ได้ถูกผลกระทบจากผลขาดทุนจำนวนมากในเงินลงทุนในตราสารหนี้ประเภท Collateralized Debt Obligation หรือ CDO ซึ่งทำให้ธนาคารมีผลขาดทุนสูงถึง 7 พันล้านบาทในปี 2550 ซึ่งมากกว่าส่วนของผู้ถือหุ้นของธนาคาร ณ สิ้นปี 2549 ถึงแม้ว่าธนาคารได้ทำการเพิ่มทุนจำนวน 3 พันล้านบาทในเดือนมีนาคม 2550 ซึ่งส่งผลให้กลุ่ม TPG Newbridge เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นภาคเอกชนรายใหญ่สุดของธนาคาร และการเพิ่มทุนอีกจำนวน 6 พันล้านบาทในเดือนมกราคม 2551 สถานะทางการเงินของ BT ได้อ่อนตัวลงอีกครั้งหนึ่งจากผลขาดทุนเพิ่มเติมในเงินลงทุนใน CDO จำนวน 2 พันล้านบาทในไตรมาสแรกปี 2551
ณ สิ้นเดือน มีนาคม 2551 BT มีเงินลงทุนใน CDO เหลืออยู่จำนวน 8.2 พันล้านบาท (ลดลงจากกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทเมื่อกลางปี 2550) โดยราคายุติธรรมของเงินลงทุนใน CDO ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 อยู่ที่ 1.96 พันล้านบาท หรือ 23 % ของต้นทุน ดังนั้นการบันทึกผลขาดทุนเพิ่มเติมในอนาคตน่าจะลดน้อยลง ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ก็ตาม
นอกจากนี้คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารยังอ่อนแอลงอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 BT มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.57 หมื่นล้านบาท หรือ 16% ของสินเชื่อทั้งหมด (15% ณ สิ้นปี 2550 และ 8% ณ สิ้นปี 2549) ธนาคารมีระดับสำรองหนี้สูญที่ 1.16 หมื่นล้านบาท หรือ 75% ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับธนาคารอื่น ๆ อย่างไรก็ตามจากแนวโน้มของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น ความเสี่ยงในการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มเติมยังคงมีอยู่
จากผลขาดทุนในเงินลงทุนใน CDO ในไตรมาสแรกปี 2551 อัตราส่วนเงินกองทุนของ BT อาจจะลดลงต่ำกว่าอัตราส่วนขั้นต่ำที่กำหนดไว้โดยธนาคารแห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามแผนในการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้บางส่วนในบริษัท บริหารสินทรัพย์สาทร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคารน่าจะช่วยให้อัตราส่วนเงินกองทุนของ BT ปรับตัวดีขึ้นภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2551
การประกาศเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณาเป็นตัวบ่งชี้ว่าอันดับเครดิตสนับสนุนอาจลดต่ำลงไปที่ระดับที่ ‘5’ ได้หาก FIDF ลดสัดส่วนการถือหุ้นลง หรืออาจแข็งแกร่งขึ้นถ้าได้รับการสนับสนุนที่ดีในระยะยาวจากผู้ถือหุ้นที่มีอันดับเครดิตที่สูง อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าธนาคารยังคงต้องการกลยุทธ์ที่ชัดเจนระยะยาวในการพัฒนาเครือข่ายของธนาคาร การควบคุมความเสี่ยง และการบริหารจัดการที่ชัดเจนขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง เพื่อการปรับปรุงและฟื้นฟูการดำเนินงานของธนาคาร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ