นายภูษิต แก้วมงคลศรี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ KEST เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า แผนการเข้าไปทำธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนาม ขณะนี้ยังคงเดินหน้าต่อไป แม้ว่าธนาคารกลางเวียดนามจะประกาศลดค่าเงินด่องลงเกือบ 2% และขึ้นดอกเบี้ยยืนระดับ 12% เพื่อหวังสกัดเงินเฟ้อก็ตาม
"ตอนนี้รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการเข้าไปทำธุรกิจหลักทรัพย์ในเวียดนามได้เดินเรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราคงจะเดินหน้าทำต่อไป แม้ว่าจะมีจุดสะดุดในเรื่องของค่าเงินด่องที่อ่อนลง และตลาดหุ้นเวียดนามที่ปรับตัวลงหนัก แต่นักลงทุนที่เราจะพาเข้าไปลงทุนเป็นนักลงทุนประเภทลงทุนระยะยาว(Long Term)โดยมีระยะเวลาการลงทุนประมาณ 3-4 ปี ซึ่งตอนนี้บริษัทฯก็มีลูกค้ากว่า 10 รายได้ และเป็นรายใหญ่ ๆ ที่เข้าใจการลงทุนเป็นอย่างดี ส่วนจะเริ่มเข้าไปลงทุนเมื่อไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจ ใครพร้อมก็เข้าไปลงทุนได้เลย"นายภูษิต กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ KEST กล่าวว่า ตลาดหุ้นเวียดนามตอนนี้ปรับตัวลงหนักจากระดับ 1,000 จุดมาเหลือ 300 จุด และมองว่าอาจจะลงไปถึงระดับ 100 จุดเศษก็ได้ เพราะค่าเงินด่องของเวียดนามได้อ่อนค่าลง เชื่อว่าหากลงทุนตอนนี้นักลงทุนก็อาจจะต้องยอมรับผลขาดทุนจากการลงทุน เพราะตลาดฯปรับตัวลงเรื่อย ๆ ส่วนบริษัทฯจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เพราะลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับภาระไปโดยเฉพาะเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา(FX)
"ลูกค้าของเราที่จะไปลงทุนในเวียดนามจะถูก limit ต้องเป็นรายใหญ่เท่านั้น เพราะลูกค้าจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากตลาดเวียดนามจะซื้อและขายหุ้นตัวเดียวกันภายในวันเดียวกันไม่ได้ เรื่องนี้ลูกค้าก็จะต้องเข้าใจ และเชื่อว่าหากลูกค้าของเราไปลงทุนระยะยาวแล้ว มีโอกาสที่จะได้ผลกำไรกลับมาเป็นไปได้มาก เพราะที่สุดแล้วตลาดเวียดนามก็จะต้องฟื้นขึ้น เพียงแต่ short term อาจจะเจ็บบ้างเท่านั้น"ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ KEST
อนึ่ง KEST ได้เข้าทำสัญญาการให้ความร่วมมือทางเทคนิค และด้านธุรกิจหลักทรัพย์ กับ Kim EngVietnam Securities Joint Stock Company ซึ่งถือหุ้นโดย Kim Eng Holdings Limited ในสัดส่วน 49%ของหุ้นชำระแล้ว
ในขณะที่ Kim Eng Holdings Limited เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KEST โดย ณ วันที่ 10 มีนาคม 2551 ถือหุ้นในสัดส่วน 56.34% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.42 น.ราคาหุ้น KEST อยู่ที่ 20.50 บาท ราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 6.93 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 20.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 20.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 20.30 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--