ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นแบงค์ ทุบฟุตซี่ปิดร่วง 104 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงกว่า 200 จุดหลังจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 104.0 จุด หรือ 1.78% ปิดที่ 5,723.3 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,708.3-5,859.4 จุด
          จิมมี ยาเตส นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "ดัชนี FTSE 100 ดิ่งหลุดจากระดับ 5,800 จุด ซึ่งอาจทำให้ดัชนีมีโอกาสที่จะร่วงลงต่ำกว่าแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 5,400 จุด นอกเสียจากว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาประคองเอาไว้"
          หุ้นกลุ่มธนาคารร่วลงอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่าธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ อาจตั้งสำรองหนี้สูญหลังจากขาดทุนในตลาดสินเชื่อเป็นวงเงินถึง 5.9 พันล้านปอนด์
          ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ร่วงลง 21 เพนซ์ ปิดที่ 213 เพนซ์ หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดิ่งลง 15 เพนซ์ ปิดที่  307 เพนซ์ และหุ้นลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 19 เพนซ์ ปิดที่ 333 เพนซ์
          หุ้นกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านร่วงลง หลังจากเมอร์ริล ลินช์ และโกลด์แมน แซคส์ ออกรายงานวิจัยในทางลบต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยหุ้นเพอร์ซิมมอนดิ่งลง 3% หุ้นเทย์เลอร์ วิมพีย์ ร่วงลง 8.5% หุ้นบาร์รัทท์ ดีเวลอปเมนท์ส ร่วงลง 11.2% หุ้นเรดโรว์ ดิ่งลง 17.6% และหุ้นโบวิส โฮมส์ ร่วงลง 18%
          อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มน้ำมันดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 9 เพนซ์ ปิดที่ 592 เพนซ์ และหุ้นบีจี กรุ๊ป ดีดขึ้น 5 เพนซ์ ปิดที่ 1258 เพนซ์