(เพิ่มเติม) JUTHA คาดรับผลดีบาทอ่อนค่า/ตั้งเป้าปี 52 รายได้โต 15% จากปีนี้

          นายชเนศร์ เพ็ญชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.จุฑานาวี(JUTHA)ระบุว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบกับกองเรือของบริษัทที่มีทั้งหมด 6 ลำ เนื่องจากเป็นเรือให้เช่า 5 ลำและผู้เช่ารับภาระค่าน้ำมันเอง มีเพียงเรือวิ่งประจำเส้นทางอายุ 2 ปีที่บริษัทต้องจ่ายค่าน้ำมัน 
          นอกจากนั้น ค่าระวางเรือยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าค่าระวางเรือเฉลี่ยในปี 51 จะอยู่ที่ 8 พันเหรียญ/วัน/ลำจาก 6.7-6.8 พันเหรียญในปีก่อน 
          ส่วนกรณีที่เงินบาทอ่อนค่าในระยะนี้น่าจะเป็นผลดีต่อรายได้ของบริษัทในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้เป็นดอลลาร์ทั้ง 100% และเงินบาทอ่อนค่าจากที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์  
          นายชเนศร์ คาดว่า รายได้ของบริษัทในปี 52 จะเติบโต 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 620 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมีเรือลำใหม่ 1 ลำ ซึ่งจะได้รับมอบประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย.52
          ทั้งนี้ เรือใหม่ที่สั่งต่ออีก 1 ลำ  มูลค่า 25 ล้านเหรียญสรอ. จากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง น่าจะช่วยให้มูลค่าเพิ่มเรือมากขึ้น 
          พร้อมกับมองว่าอุตสาหกรรมเดินเรือยังมีแนวโน้มเติบโตได้ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า จากความต้องการเรือยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับเรือใหม่ที่เข้ามาไม่เพียงพอต่อเรือที่ปลดระวางออกไป
          นายชเนศร์ กล่าวว่า ปัจจัยที่กังวลยังเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่คาดว่ายังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องและอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจจะกระทบมาสู่ธุรกิจเดินเรือในอนาคตได้
          สำหรับความกังวลที่คาดการณ์กันว่าจีนอาจจะลดการขนส่งทางเรือลง แต่หลังจากเกิดปัญหาแผ่นดินไหวนั้น นายชเนศร์ เชื่อว่า จีนยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องขนส่งสินค้าเพื่อมาซ่อมแซมในประเทศ แต่ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอาจลดลงไปบ้างเท่านั้น