นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท (MCOT)กล่าวว่า การปรับผังรายการที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้จะช่วยให้บริษัทสามารถดึงดูดเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาได้ดีขึ้น เพราะยอมรับว่าแนวโน้มในไตรมาส 3/51 เป็นต้นไปเม็ดเงินจากโฆษณาน่าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้งราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเห็นตัวเลข 2 หลัก เป็นต้วฉุด ทำให้บริษัทต่างๆอาจมีการใช้เงินเพื่อโฆษณาลดลง
MCOT คาดว่าทั้งปี 51 รายได้และกำไรของบริษัทจะเติบโตได้อย่างน้อย 15% จากปีก่อน ซึ่งลดลงจากเดิมที่คาดว่าทั้งรายได้และกำไรจะเติบโตในระดับ 15-20% โดยคาดหวังว่าการปรับผังรายการใหม่จะช่วยดึงเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาได้
"จากการที่ช่อง 9 ปรับผัง มีรายการใหม่ถึง 15 รายการ เชื่อว่าจะดึงเม็ดเงินโฆษณาจากเอเยนซี่ที่ต้องเลือกการใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด และเชื่อมั่นว่า แนวทางสาระและความบันเทิงที่ทำมาต่อเนื่องจะเห็นผล" นายวสันต์ กล่าว
สำหรับการปรับผังรายการในครั้งนี้ ทำให้สัดส่วนรายการข่าวและสาระเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากเดิม 34% และรายการบันเทิง เพิ่มเป็น 32% จากเดิม 24% ที่เหลือเป็นอื่นๆ
นายวสันต์ กล่าวว่า เหตุที่สัดส่วนรายการบันเทิงเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีรายการละครใหม่ 2 เรื่อง คือ ละครเรื่องรักบ้านเกิด และ อุบัติรักข้ามขอบฟ้า นับเป็นการกลับของละครช่วงค่ำในรอบหลายปี เชื่อว่าจะได้รับความสนใจ เนื่องจากได้ทีมงานและนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาร่วมงาน
การปรับผังครั้งนี้ MCOT กำหนดอัตราค่าโฆษณาสำหรับรายการใหม่ทั้ง 15 รายการเพิ่มขึ้นจากรายการเดิม โดยหลายรายการมีค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นมาเป็น 280,000-300,000 บาท/นาที จากเดิมประมาณ 200,000 บาท/นาที อย่างไรก็ตาม อัตราค่าโฆษณาของช่อง 9 ที่ปรับเพิ่มก็ยังถือว่ายังเป็นราคาที่ต่ำกว่าช่องอื่น ที่ช่วงไพร์มไทม์จะสูงถึงระดับ 400,000 บาท/นาที ส่วนรายการเดิมก็คงอัตราเก่า
หลังการปรับผังครั้งนี้คาดว่าจะมีปรับผังย่อยอีกครั้งใน 3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากช่วงออกอากาศของละครและรายการเรียลลิตี้ 2 รายการใหญ่จบลง จึงต้องมีรายการใหม่เข้ามาทดแทน ส่วนการปรับผังรายการครั้งใหญ่อีกครั้งจะเป็นช่วงเดือนม.ค.52 ซึ่งเป็นไปตามกำหนดปกติของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งที่จะมีการปรับผังรายการอยู่แล้ว
*ปรับผังรายการรอบดึกทั้งสัปดาห์เน้นสาระบันเทิง
นายวสันต์ กล่าวว่า อสมท.จะปรับผังรายการใหม่ตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ ทั้งช่วงไพร์มไทม์และนอนไพร์มไทม์ตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงเวลาหลัง 4 ทุ่ม เน้นรูปแบบรายการประเภทสาระบันเทิง
สำหรับวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 23.00-24.00 น.ปรับผังรายการใหม่ทั้งหมด โดยวันจันทร์จะเป็นรายการ"ห้องสืบสวน NO.9" ซึ่งเป็นรายการสารคดีเชิงสืบสวนสอบสวน ได้ทีมงานจากรายการถอดรหัสมาผลิตให้ ส่วนวันอังคารเป็นรายการ"บางอ้อ"ซึ่งเป็นรายการสารคดีแนวใหม่ สนุนสนานให้ความรู้ ซึ่งได้ทีมงานย้อนรอยมาผลิตรายการให้
วันพุธ เป็นรายการ"ตาสว่าง"ปรับจากเดิมที่ออกอกาศวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 23.00-24.00 น.มาเป็นวันพุธวันเดียวแต่เพิ่มเวลาเป็น 2 ชม.ตั้งแต่ 22.15 -24.00 น.รูปแบบรายการจะจับประเด็นข่าวสารที่สำคัญแต่ละสัปดาห์มาพูดคุย และวันพฤหัสบดี จะเป็นรายการ"ชีพจรโลกกับสุทธิชัย หยุ่น"ซึ่งนำเสนอเรื่องราว สถานที่สำคัญทั่วโลก
ส่วนวันศุกร์ เป็นรายการ "Princess Diary" ซึ่งเป็นรายการสารคดีเชิงท่องเที่ยว ที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา ทรงเป็นผู้คิดรูปแบบรายการและดำเนินรายการด้วยตนเอง และวันเสาร์ เวลา 15.00-16.00 น.จะมีรายการเรียลิตี้ใหม่ชื่อ"มายาไอดอล ตัวตนคนมายา"ที่ค้นหาคนรุ่นใหม่ไฟแรงมาเป็นนักแสดง
วันเสาร์-อาทิตย์ 16.00-16.30 น. ยกเลิกรายการ"เกมทศกัณฐ์เด็ก"มาเป็นรายการยอดมนุษย์น้อย โดยยังคงมี บมจ.เวิร์คพอยท์ เป็นผู้ผลิตรายการ
นอกจากนี้ ในช่วงเวลา 21.00-22.00 น.วันเสาร์-อาทิตย์ จะมีละครเรื่อง "อุบัติรักข้ามขอบฟ้า"ที่นำแสดงโดย กอล์ฟ-ไมค์ และในวันเสาร์เวลา 22.00-23.00 น.จะมีรายการเรียลิตี้ รายการใหม่"ซุปเปอร์สตาร์"ที่จะนำศิลปินมาเผชิญปัญหาและภารกิจในแต่ละสัปดาห์ โดยทั้งสองรายการจะเริ่มออกอากาศ 9 ส.ค.นี้ หลังรายการอะเคดามี แฟนตาเซีย (AF5) จบโครงการแล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--