ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายยังคงซบเซาเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 57.81 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 12,141.58 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 4.38 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 1,339.87 และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 10.34 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 2,404.35 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.33 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 16 ต่อ 15 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.27 พันล้านหุ้น
แจ็ค อัลบิน หัวหน้านักวิเคราะห์จากแฮร์ริส ไพรเวท แบงค์ ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "นักลงทุนขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2550 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.6%"
"นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.68 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเช็คเงินคืนภาษีมูลค่ารวม 57 ล้านดอลลาร์ จะช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัทอินเบฟของเบลเยียมยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์บริษัทอันฮอยเซอร์-บุช ในวงเงิน 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์" อัลบินกล่าว
อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกในตลาดถูกสกัดลงหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นอีก 36 เซนต์ แตะที่ระดับ 136.74 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ และจากข่าวที่ว่าไมโครซอฟท์ คอร์ป ยุติการเจรจาซื้อกิจการ ยาฮู อิงค์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มตลาดการเงิน หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส ระบุว่าบริษัทอาจขาดทุนรายไตรมาสเป็นวงเงินสูงถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์ และเป็นเหตุให้ซีอีโอของบริษัทตัดสินใจลาออก ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นเลห์แมน บราเธอร์ส ดิ่งลง 4.4%
หุ้นยาฮูร่วงลง 10.% จากข่าวที่ว่าไมโครซอฟท์ คอร์ป ยุติการเจรจาซื้อกิจการ ยาฮู อิงค์ แต่ข่าวดังกล่าวหุ้นหุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้น 4.1% เนื่องจากนักลงทุนจำนวนหนึ่งพอใจกับข่าวดังกล่าวเพราะมองว่าการเข้าซื้อยาฮูถือเป็นความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง
หุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 3.5% ขณะที่หุ้นอันฮอยเซอร์-บุช ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์บัดไวเซอร์พุ่งขึ้น 5.2% หลังจากทางบริษัทประกาศว่าได้รับข้อเสนอเทคโอเวอร์จากอินเบฟ
รายงานยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทค้าปลีกทะยานขึ้น โดยหุ้นบริษัทวอล-มาร์ท สโตร์ส ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกอันดับ 1 พุ่งขึ้น 1% หุ้นบริษัทโคห์ล พุ่งขึ้น 3% และหุ้นแซคส์ อิงค์ดีดขึ้น 2.4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--