นายวีระยุทธ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี(SAT)เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะปรับเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นเติบโต 15% จากเดิม 12% จากปีก่อนที่มียอดขาย 4,950 ล้านบาท เนื่องจากการบริษัทได้รับออร์เดอร์เพิ่มจากลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย คือ มิตซูบิชิและโตโยต้า อีกทั้งเป็นการเติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 10% ในปีนี้
"การที่เราปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น เพราะเรามองจากออร์เดอร์ที่ลูกค้าให้เราผลิต จึงชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังมีและจากออร์เดอร์ลูกค้ารายใหม่ด้วย และเรายังคาดหวังว่าจะได้รับจากบีโอไอ ในการผลิตให้กับอีโคคาร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอราคาไปแล้ว และหากได้รับก็มองว่าจะทำให้ยอดขายปี 53 โตก้าวกระโดด" นายวีระยุทธ ระบุ
บริษัทยังเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)ไว้ได้ที่ 20% และอัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)ไว้ที่ 11.5% ถึงแม้ต้นทุนเหล็กจะปรับเพิ่มสูงขึ้น และมองว่าหลังจากนี้ต้นทุนจากเหล็กจะเพิ่มขึ้น 45% ซึ่งจะกระทบต่อ Gross Profit Margin ประมาณ 1% ภายใต้สมมติฐานที่ปรับราคาขายไปแล้ว
นายวีระยุทธ ยังกล่าวอีกว่า จากการประเมินร่วมกับผู้ประกอบการรายอื่นมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังยอดขายอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศจะลดลง 10% ขณะที่การส่งออกจะเติบโต 20% จึงทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมเติบโตได้ 10%
การที่ประเมินว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นนั้น เพราะผู้ประกอบการส่งออกไปจำหน่ายในตลาดเกิดใหม่มากขึ้น แต่ที่ตลาดในประเทศลดลงนั้น เนื่องจากปัญหาทางการเมืองและราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าผลประกอบการโดยเฉพาะยอดขายในไตรมาส 2/51 จะมีอัตราการเติบโต 15% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/51 ที่เติบโต 17% เพราะช่วงไตรมาส 2/51 เป็นช่วงที่ยอดขายไม่ดี แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจและจะทำให้กลับมาได้เหมือนเดิม
*ตั้งงบ 1.07 พันลบ.ขยายลงทุน,เล็งหาพันธมิตรร่วมขยายธุรกิจในตปท.
นายวีระยุทธ กล่าวว่า จากการที่ธุรกิจเติบโตและมีการแข่งขันที่สูง จำเป็นจะต้องหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับบริษัททั้งการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับการลงทุนในประเทศบริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ 1,072 ล้านบาท แบ่งเป็น การกลึงขึ้นรูปสำหรับเพลาข้าง 254 ล้านบาท, ไลน์การผลิตทุบขึ้นรูปร้อนที่ใช้ผลิตเพลาข้าง 163 ล้านบาท, การกลึงขึ้นรูปที่ผลิตให้กับคูโบต้า 183 ล้านบาท, ขยายกำลังการผลิตสปริงหด 285 ล้านบาท และการลงทุนซื้อที่ดินในการรองรับการทำโรงหล่อ 85 ล้านบาท และที่เหลือเป็นการลงทุนอื่นๆ
นายวีระยุทธ กล่าวว่า การตั้งโรงหล่อคาดว่าจะเห็นได้ในปี 52 เพราะปัจจุบันออร์เดอร์มีจำนวนมากและกำลังการผลิตใกล้เต็ม 95% แล้ว
ด้านการการลงทุนต่างประเทศ อยู่ระหว่างศึกษาลงทุนการโรงหล่อและสำเร็จรูปในต่างประเทศ โดยจะเน้นประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจะสรุปผลศึกษาในช่วงครึ่งหลังของปีว่าจะลงทุนในรูปแบบใด เบื้องต้นอาจจะเป็นการหาพันธมิตรร่วมลงทุน หรือลงทุนด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ในปี 52 บริษัทจะขยายการกลึงสำเร็จรูปให้กับฮีโน่ที่ได้ออร์เดอร์เข้ามาเพิ่มใน Backlog อีก 749 ล้านบาท เป็นเวลา 4 ปี โดยจะเริ่มส่งมอบในปี 53 และจะเริ่มรับรู้ได้ทันที
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--