ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่ทรุดตัวลง นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบยังเคลื่อนไหวในระดับสูง ได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 8.2 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 5,794.6 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,759.6-5,832.6 จุด
ไมค์ เลนฮอฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเบรวิน ดอลฟิน กล่าวว่า "ดัชนี FTSE 100 ทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงเช้า แต่ไม่นานนัก ดัชนีก็ถอยลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง ซึ่งเป็นผลมาจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันอังคาร และรายงานการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในวันพุธ"
ราคาน้ำมันดิบที่ยังเคลื่อนไหวในระดับสูง ได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและหุ้นธุรกิจเดินเรือร่วงลง โดยหุ้นบริติช แอร์เวย์สร่วงลง 2 เพนซ์ ปิดที่ 240 เพนซ์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ยังประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบริติช แอร์เวย์สลงสู่ระดับ 'sell' และลดเป้าหมายราคาหุ้นดังกล่าวเหลือเพียง 117 เพนซ์ จากเดิมที่ 200 เพนซ์
ขณะที่หุ้นคาร์นิวัลซึ่งเป็นบริษัทเรือสำราญ ร่วงลง 42 เพนซ์ ปิดที่ 1790 เพนซ์
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มน้ำมันพุ่งขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้นเข้าใกล้ระดับ 140 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นบีพีดีดขึ้น 0.3% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 0.9% และหุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จีดีดขึ้น 1.1%
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดีดขึ้น 11 เพนซ์ ปิดที่ 329 เพนซ์ หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์สรรายงานว่า บาร์เคลย์สเตรียมระดมทุนราว 4 พันล้านดอลลาร์ ด้วยการออกหุ้นใหม่
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--