นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลัง กบข.จะกระจายการลงทุนไปยังหลักทรัพย์ประเภทนิติบุคคลเอกชนต่างประเทศ โดยเฉพาะกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ให้ผลตอบแทนสัมพันธ์กับอัตราเงินเฟ้อ
"การลงทุนในปีนี้เผชิญกับความผันผวนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามจากการกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลาย และการติดตามสถานการณ์ลงทุนอย่างใกล้ชิดของคณะกรรมการการลงทุนของ กบข. ทำให้สามารถปรับนโยบายการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และลดความเสี่ยงการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวให้สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ตามเป้าหมายให้กับสมาชิกที่ออมเพื่อวัยเกษียณ" นายวิสิฐ กล่าว
ในช่วงที่ผ่านมาคณะกรรมการลงทุนของ กบข. ได้มีการติดตามสถานการณ์การลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้คาดว่าจะมีการชะลอลงค่อนข้างมาก โดยในปี 2551 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.8 ซึ่งชะลอลงจากการขยายตัวร้อยละ 5.0 ในปี 2550 เป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐสืบเนื่องจากสินเชื่อด้อยคุณภาพ และปัญหาสถาบันการเงิน ส่งผลให้นักลงทุนหันไปลงทุนในตราสารอื่นๆ มากขึ้น รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity)
การที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศต่างปรับตัวสูงเป็นประวัติการณ์จากปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่ล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อที่กระทรวงพาณิชย์รายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาสูงถึงร้อยละ 7.6 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2541 และมีแนวโน้มว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 7-8
ขณะที่ปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และมีการประเมินว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจปรับตัวสูงถึง 150 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ค่าครองชีพและรายจ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวสูงขึ้น และเป็นแรงกดดันให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นอีก
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--