ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กข่าวโกลด์แมนแซคส์,วิตกเงินเฟ้อ ฉุดดาวโจนส์ร่วง 108.78 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งตอกย้ำความกังวลว่าเรื่องเงินเฟ้อที่กำลังคุกคามเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดการเงิน หลังจากโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยตัวเลขกำไรลดลงในไตรมาส 2 พร้อมกับออกรายงานเตือนวิกฤตการณ์สินเชื่อทั่วโลก
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 108.78 จุด หรือ 0.89% ปิดที่  12,160.30 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 9.21 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 1,350.93 จุด และดัชนี Nasdaq ลบ 17.05 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 2,457.73 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.09 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 5 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.81 พันล้านหุ้น
          ซูโบห์ คูมาร์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทซูโบห์ คูมาร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ กล่าวว่า "ดัชนี PPI ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ประกอบกับราคาน้ำมันที่ยังเคลื่อนไหวในระดับสูง ได้จุดปะทุให้เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้ออีกระลอก และกดดันให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นอย่างหนัก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเป็น 2 เท่าในยามที่เศรษฐกิจอ่อนแอเช่นนี้ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะ stagflation แล้ว"
          กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนี PPI ทั่วไปเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.4% ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวขึ้นรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ขยายตัวขึ้น 0.2% 
          "นักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทกังวลว่า ต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นและเงินเฟ้อที่กำลังคุกคามเศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ จะทำให้ผู้ประกอบการผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปให้กับผู้บริโภค และผู้บริโภคเองก็จะลดการใช้จ่ายลง สถานการณ์เช่นนี้จะยิ่งฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ถดถอยเร็วขึ้น เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐมีสัดส่วนสูงถึง 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ" คูมาร์กล่าว
          นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดการเงิน หลังจากโกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่สุดของโลกรายงานว่า กำไรสุทธิในไตรมาสสองปี 2551 ลดลงประมาณ 10% ซึ่งเป็นผลมาจากค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ และการทำอันเดอร์ไรท์ 
          โดยกำไรของบริษัทอยู่ที่ 2.05 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.58 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 พ.ค. เปรียบเทียบกับกำไร 2.29 พันล้าน หรือ 4.93 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีก่อนหน้านี้ ส่วนรายได้ลดลง 7% แตะ 9.42 พันล้านดอลลาร์ จาก 1.02 แสนล้านในปีก่อน
          สก็อต เวร็น นักวิเคราะห์จากวาโชเวีย ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า "นักลงทุนตื่นตระหนกมากขึ้นเมื่อโกลด์แมน แซคส์ ออกรายงานคาดการณ์ว่า วิกฤตการณ์สินเชื่อทั่วโลกจะยังไม่สูงสุดจนกว่าจะถึงปี 2552 พร้อมระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐได้ระดมทุนไปแล้วาว 1.20 แสนล้านดอลลาร์ และอาจต้องระดมทุนอีกราว 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์"
          หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ร่วงลง 5.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของเอเอ็มเบสท์ปรับลดอันดับเครดิตของ AIG โดยให้เหตุผลว่าการที่ AIG ตัดสินใจปลดซีอีโอออกจากตำแหน่งจะทำให้ AIG เผชิญความท้าทายในระบบที่หนักหน่วงขึ้น
          หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3.6% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นและคาดการณ์ว่าแบงค์ ออฟ อเมริกาจะขาดทุนมากขึ้นเนื่องจากวิกฤติสินเชื่อทั่วโลก
          หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 179.44 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรลดลงในไตรมาส 2