บมจ.สตีล อินเตอร์เทค(STEEL)ยังคงเป้ารายได้เติบโต 20% ในปีนี้รอดูทิศทางสถานการณ์การเมือง หากยืดเยื้อรุนแรงจนกระทบภาวะการลงทุนโดยรวม ก็อาจจะพิจารณาปรับเป้าหมายในช่วงครึ่งปีหลัง และขณะนี้ได้ชะลอแผนควบรวมกิจการเหล็กนอกตลาดไปแล้ว
แต่ยังเชื่อว่าจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 18-20% ตลอดทั้งปี หลังจากช่วงไตรมาส 1/51 ทำได้ที่ 18% จากผลราคาเหล็กที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นายประสิทธิ อุ่นวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ STEEL คาดว่าในปีนี้บริษัทน่าจะทำรายได้ 360 ล้านบาท สูงขึ้นราว 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 300 ล้านบาท เนื่องจากราคาเหล็กปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นเหล็กชนิดพิเศษออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นการลงทุนใหม่ที่นำเงินมาจากการขายหุ้น IPO
ขณะที่ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18-20% ใกล้เคียงไตรมาส 1/51 ที่ทำได้ 18% สูงขึ้นจาก 13-14% ในปี 50 เนื่องจากราคาเหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมาและไม่มีความผันผวน ทำให้ได้รับประโยชน์จากสต็อกเหล็กที่บริษัทมีโควต้าประมาณ 1 พันตัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะมีการทบทวนเป้าหมายทางธุรกิจอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง หากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเกิดความวุ่นวายจนส่งผลกระทบในภาพรวม หากความกังวลในการลงทุนที่เริ่มเห็นในระยะนี้ แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะยังไม่มีการชะลอตัวก็ตาม
"ปีนี้เป้าหมายเราได้อยู่ที่ 360 ล้านบาท ยังมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ แต่ถ้าหากปัญหาการเมืองเรื้อรัง และนำไปสู่ความรุนแรง การลงทุนของภาคเอกชนอาจจะชะลอตัว แต่ช่วงครึ่งปีแรกยังไม่เห็นความชัดเจนเรื่องการชะลอตัวของการลงทุน แต่เริ่มมีความกังวลปัจจัยการเมือง และมีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น แต่พวกที่ขอบีโอไอยังไงก็คงต้องลงทุนต่อเนื่อง"นายประสิทธิ กล่าว
สำหรับแผนควบรวมกิจการบริษัทเหล็กนอกตลาด เบื้องต้นได้ศึกษาและเจรจากันไว้บ้างแล้ว แต่จากปัญหาการเมืองทำให้บริษัทตกลงกันที่จะชะลอการเจรจาออกไปเป็นปีหน้าด้วย
นายประสิทธิ กล่าวอีกว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการเพิ่มสภาพคล่องหุ้น ซึงแต่เดิมเคยศึกษาการเพิ่มทุน แต่เกรงว่าจะเกิดผลกระทบกับผู้ถือหุ้นเดิม จึงชะลอออกไปก่อน และจะหาแนวทางอื่น ๆ เป็ฯทางเลือกต่อไป
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/ศศิธร/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--