WIN ย้ายเข้าเทรดหมวดขนส่ง-โลจิสติกส์ 2 ก.ค./คาดทั้งปีรายได้โตกว่า 400%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 18, 2008 18:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค(WIN)ย้ายเข้าเทรดหมวดขนส่งและโลจิสติกส์ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.51 คาดสิ้นปียอดขนส่งตู้คอนเทนเนอร์มาบตาพุด-แหลมฉบังเกิน 60,000 ตู้ เพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อน ด้านพื้นที่ปลอดอากรคาดมีลูกค้าใช้บริการไม่น้อยกว่า 80% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท เติบโตกว่า 400% จากปีก่อน 
นายเทียนชัย ดาวรรณวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WIN กล่าวว่า หุ้นของบริษัทจะปรับเปลี่ยนหมวดจากหมวดอสังหาริมทรัพย์ไปทำการซื้อขายในหมวดขนส่งและโลจิสติกส์ โดยตลาดฯได้พิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทในรอบปี 2550 รวมถึงแนวโน้ม และทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยไตรมาสที่ 1/51 สามารถสร้างรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 35.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 250%
"การย้ายหมวดในครั้งนี้ จะทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัทมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทที่ต้องการเป็น Total Logistics Service Provider คือ บริษัทที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร"นายเทียนชัย กล่าว
WIN คาดว่ายอดขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งปีนี้น่าจะอยู่ที่ 60,000-70,000 ตู้ เพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นตัวเร่งให้ลูกค้ามองหารูปแบบการขนส่งอื่น ๆ แทนแบบเดิม ซึ่งบริการการขนส่งทางรถไฟที่ให้บริการอยู่มีราคาถูกที่สุด และมีกลุ่มลูกค้าใช้บริการ อาทิ กลุ่มผู้ผลิตเม็ดพลาสติกในเครือ บมจ.ปตท.(PTT), บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์(TPC) เป็นต้น
อีกทั้ง เป็นปีแรกที่บริษัทฯ เริ่มให้บริการการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพื่อการส่งออกในเส้นทางท่าเรือแหลมฉบัง-นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ผลิตและผู้ส่งออกหันมาใช้บริการการขนส่งทางรถไฟเพิ่มมากขึ้น จึงวางเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้ว่าอัตราการเช่าพื้นที่จะอยู่ที่ระดับ 80%
นายเทียนชัย กล่าวอีกว่า หลังจากปรับเปลี่ยนนโยบายการตลาดของธุรกิจการให้เช่าพื้นที่ในเขตปลอดอากรที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าขนาดกลางที่ต้องการพื้นที่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ในเขตปลอดอากรในปัจจุบันอยู่ที่ 45% ของพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด ทำให้ไตรมาส 1/51 รายได้เติบโตขึ้น 250% เป็นกว่า 35.84 ล้านบาท โดย 85% เป็นรายได้จากการให้บริการด้านโลจิสติกส์
สำหรับปี 2551 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวของรายได้กว่า 400% เมื่อเทียบกับรายได้รวมปีที่แล้ว เพราะรายได้หลักส่วนใหญ่จะมาจากการให้บริการด้านโลจิสติกส์เป็นหลัก
ความคืบหน้าในการขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทแก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) นั้น มีนักลงทุนประเภทสถาบันหลายรายให้ความสนใจ โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้ บริษัท เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ