ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กมอร์แกน สแตนลีย์กำไรร่วง,น้ำมันพุ่ง ฉุดดาวโจนส์ดิ่ง 131.24 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 130 จุดเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจการเงิน หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยตัวเลขกำไรร่วงลงอย่างหนัก อีกทั้งยังกังวลเรื่องผลกำไรภาคเอกชนหลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 131.24 จุด หรือ 1.08% ปิดที่  12,029.06 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่ดัชนี S&P 500 รูดลง 13.09 จุด หรือ 0.97% ปิดที่ 1,337.81 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 28.02 จุด หรือ 1.14% ปิดที่ 2,429.71 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.28 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.07 พันล้านหุ้น
          เคร็ก เพคแฮม นักวิเคราะห์จากบริษัทเจฟเฟอรีส์ แอนด์ โค ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า ตลาดถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มธุรกิจการเงินอีกระลอก หลังจากมอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐเปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัททรุดตัวลง 61% เนื่องจากวิกฤติสินเชื่อที่ยังคงส่งผลกระทบเลวร้ายต่อธุรกิจวาณิชธนกิจและเทรดดิ้ง
          โดยกำไรของบริษัทลดลงแตะ 1.01 พันล้านดอลลาร์ หรือ 95 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับระดับ 2.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.45 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้สุทธิในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. อยู่ที่ 6.51 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 38% จากระดับ 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีก่อน
          เอ็มเอฟ โกลบอล คาดการณ์ว่า ภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อจะลุกลามในวงกว้างขึ้นและจะฉุดผลประกอบการของเอ็มเอฟ โกลบอลและบริษัทอื่นๆร่วงลงอีก อีกทั้งมีรายงานว่าบริษัทโบรกเกอร์ในตลาดล่วงหน้าวางแผนที่จะขายหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์เพื่อเตรียมไว้สำหรับการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปีนี้          
          ตลาดได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลที่ว่าราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นอาจฉุดรั้งผลกำไรของบริษัทเอกชน โดยเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้นรุนแรง 2.67 ดอลลาร์ แตะที่ 136.68 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินความคาดหมาย
          หุ้นเฟดเอ็กซ์ร่วงลง 2% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการปี 2551 จะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ส่วนหุ้นเอ็มเอฟ โกลบอล ดิ่งลง 41%
          อย่างไรก็ตาม หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 40.69 ดอลลาร์ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักในช่วงเช้าภายหลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรที่ร่วงลงอย่างหนัก