โบรกฯ แนะชะลอซื้อ PTTEP เสี่ยงถูกกดดันจากภาวะตลาด-ราคาน้ำมันโลกปรับลง

          โบรกเกอร์ ต่างแนะนำ"ซื้อ"บมจ.ปตท.สำรวจแลผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) แต่ช่วงนี้ควรชะลอออกไปก่อนเพื่อรอจังหวะ แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงไปมากแล้ว แต่ภาวะตลาดรวมจะมีแนวโน้มดิ่งลงต่อ จากปัจจัยลบจากการเมืองและเงินเฟ้อ ขณะที่ราคาน้ำมันโลกก็ปรับตัวลง ยิ่งมีข่าวจะมีข่าวเพิ่มการผลิตของกลุ่มโอเปคเป็นแรงกดดันราคาน้ำมัน ต้องรอดูความชัดเจนหลังการประชุมในวันอาทิตย์นี้(22 มิ.ย.)อย่างไรก็ตาม มองในแง่ปัจจัยพื้นฐานบริษัทยังไม่เปลี่ยนแปลง และยังคงสามารถทำกำไรได้ 
          ราคาหุ้น PTTEP วานนี้ ปิดที่ 170 บาท ลงต่ออีก 3 บาท (-1.73%) ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบเกือย 2 เดือน จากก่อนหน้าเมื่อ 22 พ.ค.ราคาดีดขึ้นไปทำนิวไฮที่ 222 บาท 
          โบรกเกอร์           คำแนะนำ           ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บล.บัวหลวง          ชะลอซื้อ             240
          บล.นครหลวงไทย      ชะลอซื้อ             220
          บล.เคจีไอ           ซื้อ                 204
          บล.ฟินันซ่า           ซื้อ                 213
          บล.สินเอเซีย         ซื้อ                 210
          บล.กสิกรไทย         ซื้อ                 173
          บทวิเคราะห์ของ บล.สินเอเชีย มีความเห็นว่าราคาหุ้นของ PTTEP ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากในระยะนี้ คาดว่ามาจากปัจจัยความกังวลเรื่องราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มอ่อนตัว จากการที่ซาอุดิอาระเบียมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 500 KBD ในเดือนก.ค.51 และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง 
          และ SOCO International รายงานใน Website วันที่ 16 มิ.ย.51 ถึงผลการเจาะหลุม TGD-1X-ST1 แปลง 16-1 ในเวียดนาม (PTTEP ถือหุ้น 28.5%) ว่าการขุดเจาะค่อนข้างยากเพราะชั้นหินแข็ง แต่จะมีการสำรวจต่อไปและคาดว่าจะทราบผลการประเมินปิโตรเลียมสิ้นเดือนมิ.ย.นี้
          กรณีแย่สุด หากการสำรวจต่อในหลุม TGD-1X-ST1 ไม่พบปิโตรเลียม ก็ต้องตัดเป็นค่าใช้จ่ายหลุมแห้ง ซึ่งโครงการนี้ลงทุนไปประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะเป็นค่าใช้จ่ายของ PTTEP ตามสัดส่วนถือหุ้นประมาณ 28.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งยังอยู่ในประมาณการค่าใช้จ่ายสำรวจและผลิตของ ACLS
          สำหรับแหล่งเวียดนาม 16-1 มีการค้นพบปิโตรเลียมค่อนข้างดีในการสำรวจที่ผ่านมา และ PTTEP เตรียมรับรู้ปริมาณสำรองปิโตรเลียมในช่วงปลายปี 51 พร้อมกับแหล่ง M-9 ในพม่าซึ่งถือเป็น Upside ของ PTTEP อีกแหล่งหนึ่ง
          นายสุกิจ อุดมศิริกุล  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย  มองว่าสาเหตุที่ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลดลง เป็นผลกระทบจากภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งมีการเทขายของต่างชาติ ทำให้การเข้าซื้อหุ้น PTTEP ยังมีความเสี่ยง เพราะภาวะตลาดรวมยังไม่ถึงจุดต่ำสุด ยังมีความเสี่ยงด้านการเมืองและเงินเฟ้อ 
          ส่วนในแง่ปัจจัยพื้นฐานของ PTTEP ระยะที่ผ่านมาถูกคาดการณ์ในเชิงบวกมากเรื่องราคาน้ำมัน ทำให้หุ้นมี Premium จากราคาพื้นฐานค่อนข้างมาก อย่างในช่วงนี้ก็มีแรงกดดันจากราคาน้ำมันมากขึ้น ก็เป็นแรงกดดันกลับมาในตัวบริษัท จึงมองว่ายังรอได้ หรือ ซื้อเมื่ออ่อนตัว  และเราประเมินราคาพื้นฐาน PTTEP ที่ 220 บาท ซึ่งเป็นราคาพื้นฐานที่บนสมมติฐานราคาน้ำมันอยูที่ 90-95 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ก็ยังถือว่าราคาหุ้นไม่ได้แพง 
          "เป็นเรื่องระยะสั้น น่าจะชะลอ รอดูดีกว่า ปัจจัยพื้นฐานก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน ในระยะสั้นเราคาดหวังราคาหุ้น PTTEP ขึ้นจากความคาดหวัง คือ ต่างชาติกลับมาซื้อ ซึ่งผมคิดว่าเหตุผลนี้ตัดไปก่อน และราคาน้ำมันดิบดีดตัวกลับไป ซึ่งอันนี้เป็นไปได้ ซึ่งตลาดคาดแล้วว่าราคาน้ำมันมีโอกาสลง ราคาน้ำมันผูกติดกับราคา PTTEP ฉะนั้นเป็นเเหตุผลด้านจิตวิทยา"นายสุกิจ กล่าว  
          ทั้งนี้ เห็นว่าน่าจะรอความชัดเจนการประชุมโอเปคก่อน ซึ่งจะเห็นชัดว่าสถานการณ์น้ำมันเป็นอย่างไร แต่ถ้าตลาดภาพรวมไม่ดีก็คงจะคาดหวังอะไรไม่ได้มาก 
          นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง เห็นว่า ในระยะสั้นมองว่าราคาน้ำมันจะลง ฉะนั้นขณะนี้ยังไม่ใช่จังหวะการเข้าซื้อหุ้น PTTEP ส่วหนึ่งเป็นผลจากโอเปคที่จะเพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่กลุ่ม Emerging Country อย่างเอเชียแปซิฟิค รัฐบาลในแถบนี้กำลังแบกรับภาระราคาน้ำมันไม่ไหว ดังนั้น แทบทุกประเทศกำลังลดการอุดหนุน ซึ่งเริ่มเห็นในประเทศอินโดนีเซีย  อินเดีย มาเลเซีย  ทำให้ดีมานด์ของกลุ่มประเทศเหล่านี้ลดลง 
          ก่อนหน้าแม้สหรัฐจะลดการใช้น้ำมันแต่ตลาดเอเชีย โดยเฉพาะจีน ยังมีความต้องการทำให้ราคาน้ำมันยังมีเสถียรภาพ แต่ขณะนี้มีข่าวเรื่องซัพพลาย คาดว่าราคาน้ำมันในปีนี้เฉลี่ยแล้วจะยืนอยู่ที่ระดับ 120-130 เหรียญ/บาร์เรล ถ้าจีนมีท่าทีจะลดการอุดหนุน ดีมานต์ในจีนก็จะลดลง ฉะนั้นราคาน้ำมันจะสะท้อนในเชิงลบ คาดว่าราคาน้ำมันจะสวิงลงมาอยู่ที่ 110-120 เหรียญ/บาร์เรล 
          "ฉะนั้น มอง Timing ในการซื้อตอนนี้ไม่ใช่ ในช่วงระยะสั้น ก็คงประมาณ  1 เดือนจากนี้ Medium term ยังโอเค...ถ้าราคาน้ำมันขึ้นรอบใหม่ราคา PTTEP ก็จะขึ้น"นายชัยพร กล่าว 
          ส่วนการสำรวจในเวียดนามที่มีข้าวว่าเกิดอุปสรรคเรื่องเครื่องขุดเจาะนั้น บริษัทได้มีการ write off แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเป็นไปตามปกติของธุรกิจขุดเจาะสำรวจแหล่งปิโตรเลียมอยู่แล้ว 
          ด้านนักวิเคราะห์จาก บล.เคจีไอ มองว่า ในแง่ปัจจัยพื้นฐาน ราคาหุ้น PTTEP ได้ปรับตัวลงไปมากสะท้อนกับความคาดหวัง หรือคาดหมายการประชุมในวันอาทิตย์นี้จะมีการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปค ที่ตลาดมองว่าจะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดอ่อนตัวลง ซึ่งราคาที่ปรับตัวลดลงมาได้สะท้อนมาระดับหนึ่งแล้ว
          แต่ในเชิงพื้นฐานไม่มีอะไรเปลี่ยน แม้ว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะปรับลงมาจากที่ขึ้นไปสูงสุดถึง 139 เหรียญ/บาร์เรล ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะทำกำไรไม่ได้ ซึ่งระดับราคาน้ำมันขณะนี้ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง ประมาณ 133 เหรียญ/บาร์เรล 
          "Fundamental ไม่ได้เปลี่ยน ผมมองว่าเป็นโอกาสเข้าซื้อถ้าหุ้นปรับตัวลดลง ถ้าเทียบกับ fair price แต่ก็ต้องดูภาวะตลาดโดยรวมด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ control ไม่ได้ ก็ต้องดูจังหวะด้วย ถ้าตลาดลงหุ้น PTTEP หุ้นก็ลงตาม เพราะหุ้นเป็น Proxy ของตลาด"นักวิเคราะห์กล่าว 
          อนึ่ง ในวันที่ 22 มิ.ย. จะมีการประชุมระหว่างกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันและกลุ่มผู้ซื้อน้ำมันซึ่ง ที่เมืองเจดะห์ การประชุมครั้งนี้จะเป็นปัจจัยบ่งชี้แนวโน้มราคาน้ำมันได้ในระดับหนึ่ง โดยตลาดจับตาดูท่าทีของซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกและเป็นสมาชิกผู้ทรงอิทธิพลในกลุ่มโอเปค ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันอีก 200,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.