ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวร่วงลงถ้วนหน้าในเช้าวันนี้ โดยมีหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินที่ดิ่งลงฉุดตลาดเคลื่อนไหวในแดนลบตามตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ FedEx Corp. เปิดเผยว่า ความต้องการน้ำมันที่ลดลงในยามที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจะฉุดรั้งผลการดำเนินงานของบริษัท
ริก คลัสแมน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Aequs Securities ในนครซิดนีย์กล่าวว่า "ตลาดแกว่งตัวผันผวนในช่วงนี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายถูกปกคลุมด้วยกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและวิกฤติสิน รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและจะยิ่งทำให้ภาคธุรกิจมีตัวเลขค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น"
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 130 จุด จากสถานการณ์ตึงเครียดในภาคธุรกิจการเงินหลังจากที่ Third Bancorp ประกาศแผนการระดมทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่เอมเอฟ โกลบอล เตือนว่าวิกฤติสินเชื่อที่ตึงตัวจะฉุดรั้งตัวเลขผลกำไรประจำไตรมาสแรก
ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐ เปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัททรุดตัวลง 61% จากปีก่อนหน้านี้ แม้ตัวเลขดังกล่าวจะดีกว่าการคาดการณ์ของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในตลาดอยู่เล็กน้อยก็ตาม
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ ดัชนี S&P/ASX ตลาดหุ้นออสเตรเลียลบ 0.8% อยู่ที่ 5,398.2 จุด ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลง 2.1% แตะที่ 14,146.80 จุด
นอกจากนี้ ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลง 1.9% อยู่ที่ 1,741.58 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทรุดตัวลง 1.8% ที่ระดับ 22,906.19 จุด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--